ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า หุ้นไทย ขยับลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ โดยเผชิญแรงกดดันหลักๆจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง หลังโอเปกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกสำหรับปีนี้และปีหน้าลง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ หลังกนง. มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ไปที่ 2.25% ซึ่งเหนือความคาดหมายของตลาด โดยปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ย นำโดย กลุ่มไฟแนนซ์และอสังหาริมทรัพย์
โดยหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงท้ายสัปดาห์ โดยแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครั้งใหม่ที่ 1,506.82 จุด ก่อนจะลดช่วงบวกลงมาบางส่วนตามแรงขายทำกำไรก่อนปิดตลาดปลายสัปดาห์ อนึ่ง สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากสุด โดยนอกจากจะได้รับอานิสงส์ตาม Sentiment ตลาดในภาพใหญ่หลังกนง. ลดดอกเบี้ยแล้ว ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากปัจจัยเฉพาะด้วยเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ต.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,489.82 จุด เพิ่มขึ้น 1.34% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 66,749.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.30% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.78% มาปิดที่ระดับ 340.34 จุด
สำหรับ สัปดาห์นี้ (21-25 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,450 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,510 และ 1,525 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนก.ย. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของบจ.ไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนต.ค. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ