โฟล์กสวาเกน เอจี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และในยุโรป และเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์หลากหลาย เช่น โฟล์กสวาเกน อาวดี้ ปอร์เช และเบนท์ลี กำลังพิจารณาสั่งปิดโรงงานผลิตรถยนต์ 1 แห่ง และโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 1 แห่ง ทั้งหมดอยู่ในประเทศเยอรมนี หากปิดทั้ง 2 โรงงานจริง จะกลายเป็นการปิดโรงงานรถยนต์ครั้งแรกและเป็นประวัติศาสตร์ในเยอรมนี รวมถึงเป็นครั้งแรกใน 87 ปีของการก่อตั้งโฟล์คสวาเกน เอจี เป็นต้นมา
รวมถึงจะยกเลิกโครงการจ้างงานมั่นคงกับสหภาพแรงงานในเยอรมนีที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ปี 1994 ถึงปี 2029 รวมเป็นระยะเวลา 35 ปี สาเหตุบริษัทฯ ต้องการตัดลดค่าใช้จ่าย และการแข่งขันที่รุนแรงของรถยนต์ราคาถูกจากผู้ผลิตสัญชาติเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน
นายโอลิเวอร์ บลูเม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ โฟล์กสวาเกน เอจี กล่าวว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมีความท้าทายมากขึ้น มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดยุโรป เยอรมนีในฐานะที่ตั้งธุรกิจกำลังเผชิญความสามารถในการแข่งขันตกต่ำลงเรื่อย ๆ
โฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นแบรนด์หลัก จะเป็นแบรนด์แรกในกลุ่มที่จะต้องเข้าสู่โครงการตัดลดค่าใช้จ่ายตามเป้าหมายที่ 10,000 ล้านยูโร หรือ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 385,000 ล้านบาทภายในปี 2026 ขณะที่ราคาหุ้นของโฟล์คสวาเกน เอจี ทรุดต่ำมากต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทฯ หดหายถึงเกือบ 1 ใน 3 หรือเกือบ 33% ใน 5 ปีผ่านมาติดต่อกัน
ทั้งนี้ นายดาเนียลา คาวัลโล หัวหน้าสภาแรงงานโฟล์กสวาเกน เอจี กล่าวว่า ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ประสบความล้มเหลว ถึงแม้ว่าโฟล์คสวาเกนจะแบรนด์หลักของกลุ่มบริษัทที่เสี่ยงจะขาดทุน จากความเคลื่อนไหวที่จะปิดโรงงานผลิตรถยนต์ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนนั้น สภาแรงงานขอให้คำมั่นว่าจะต่อต้านอย่างรุนแรง ปัจจุบัน โฟล์กสวาเกน เอจี จ้างพนักงานประมาณ 650,000 คนทั่วโลก ซึ่งเกือบ 300,000 คน หรือราว 46% อยู่ในประเทศเยอรมนี