กระทรวงศึกษาธิการ ประเทศจีน เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2021-2023 โรงเรียนอนุบาลทั่วประเทศปิดกิจการรวมทั้งสิ้น 20,352 แห่ง จากเดิมที่มีจำนวน 294,832 แห่ง ลดลงมาเหลือ 274,480 แห่ง หรือลดลงมากถึง -6.90% สาเหตุจากอัตราและจำนวนการเกิดเด็กทารกใหม่ตกต่ำลงต่อเนื่อง โอกาสและอนาคตการหางานทำของคนแรงงานวัยหนุ่มสาวไม่สดใสเหมือนหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ และนโยบายการกวาดล้างโรงเรียนที่มีผลกำไรสูงมากเกินความเหมาะสมแท้จริง ซึ่งจำนวนโรงเรียนอนุบาลที่ปิดตัวลงจากทั้ง 3 ปัจจัยหลักล้วนเป็นโรงเรียนอนุบาลของเอกชน
ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ผู้ปกครองชาวจีนไปยืนต่อคิวตั้งแต่เช้ามืดบริเวณหน้าประตู้รั้วทางเข้าโรงเรียนอนุบาลชื่อดังหลายแห่ง เพื่อเข้ายื่นใบสมัครเรียนในระดับก่อนชั้นอนุบาลได้หายไปแล้ว โดยมีจำนวนใบสมัครลดลงมากถึง 5 ล้านคน มาอยู่ที่ 40.92 ล้านคนจากเดิมที่ 45.92 ล้านคน ทำสถิติจำนวนยื่นใบสมัครเข้าเรียนที่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 10 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2014 สอดรับกับจำนวนตำแหน่งเปิดรับครูสอบระดับก่อนชั้นอนุบาลแบบบรรจุเต็มเวลาได้หายไปถึง 170,000 อัตราในปี 2023 ผ่านมา
นางหลี ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนามสกุล ซึ่งเป็น หนึ่งในผู้ปกครองชาวจีนอาศัยอยู่ในเจียงซู ที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการมีบุคคลที่ 2 หรือคนที่ 3 รวมถึงข้อจำกัดในการหารายได้เพื่อส่งเสียลูกเข้าคนแรกที่มีอายุ 2 ขวบเข้าเรียนในระดับก่อนชั้นอนุบาล เปิดเผยว่า เงินสำคัญที่สุด แบะกำลังถกเถียงเหตุและผลกับสามีว่า จะพาลูกเข้าเรียนในโรงเรียนก่อนชั้นอนุบาลของรัฐบาล หรือของเอกชนดี ขณะที่คุณภาพการศึกษาสำคัญที่สุด แต่ก็ได้ใช้จ่ายค่าเทอมของลูกสาวถึงเดือนละกว่า 10,000 หยวน หรือกว่า 48,200 บาทต่อเดือน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถที่จะมีลูกคนที่ 2 หรือคนที่ 3 ได้แน่นอน
สถาบันวิจัยประชากรยู่หวา ประเทศจีน เปิดเผยว่า ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งอายุครบ 18 ปี คิดเป็น 6.3 เท่าของรายได้ต่อหัวของประชากรจีน จากการเปรียบเทียบทั้งหมด 13 ประเทศ พบว่าประเทศเกาหลีใต้มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการเลี้ยงดูเด็กในช่วงระยะเวลาเดียวกันสูงถึง 7.79 เท่าของรายได้ต่อหัวประชากรเกาหลีใต้ ขณะที่ในออสเตรเลียค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีอยู่เพียง 2.8 เท่า สหรัฐอเมริกาคิดเป็น 4.11 เท่า และประเทศญี่ปุ่นคิดเป็น 4.26 เท่า
เมื่อต้นปีนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานจำนวนประชากรของจีนในปี 2023 พบว่าลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยลดลงไป 2.08 ล้านคนหรือ 0.15% เหลือประชากรจีน 1.409 พันล้านคน ตัวเลขนี้ลดลงมากกว่าปีก่อนหน้านั้นด้วย เพราะปี 2022 ประชากรจีนลดลงไป 850,000 คน ทั้งนี้ การลดลงของประชากรจีนในปี 2022-2023 นั้น ถือเป็นการลดลงคร้งแรกในรอบกว่า 60 ปี นับตั้งแต่ปี 1961 ในช่วงที่เกิดความอดอยากครั้งใหญ่ในสมัย เหมา เจ๋อตุง
ขณะที่ในปี 2022 อัตราการเกิดใหม่ของเด็กจีนลดลงไปถึง 5.7% เหลือ 9.02 ล้านคน และอัตราการเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 6.39 คนต่อประชากร 1,000 คน ลดลงจาก 6.77 คน ด้านสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประเมินว่า จำนวนประชากรของจีนอาจลดลงไปถึง 109 ล้านคนภายในปี 2050 เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 3 เท่าจากการคาดการณ์ครั้งก่อน