นายพิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทพีดับเบิลยูซี ประเทศไทย (PwC) ซึ่งเป็นบริษัทด้านธุรกิจบริการกที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังระดับโลก กล่าวว่า จากรายงานผลสำรวจประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอทั่วโลกประจำปีในครั้งที่ 27 ของประเทศไทย พบว่า องค์กรธุรกิจกำลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว โดย 36% ของซีอีโอไทยมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอไปใช้ในบริษัทแล้ว มี 24% ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งได้รับผลกระทบของการมาถึงของเอไอ ซึ่งตัวเลขผลสำรวจในไทยสอดคล้องกับตัวเลขทั่วโลกที่ 32% และ 31% และเอเชียแปซิฟิกที่ 33% และ 28% ตามลำดับ
ธุรกิจไทยปรับตัวไปสู่ดิจิทัลรวดเร็วมากขึ้น และเปิดรับในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เอไอเข้ามาใช้ในธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจบริการทางการเงิน โดยนำเอไอมาเป็นที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อพิจารณาสินเชื่อ และบริการด้านอื่นๆ ในการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
นั่นคือการนำซอฟท์แวร์เอไอเข้ามาใช้ แต่ในรายงานฉบับดังกล่าว เปิดเผยชัดเจนว่า เกินครึ่งหนึ่งของซีอีโอในประเทศไทย หรือ 58% ระบุว่าจะต้องมีการยกระดับทักษะให้แก่พนักงานเพื่อรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ขณะนี้ เกิดช่องว่างในการนำเอไอมาใช้ โดยเฉพาะการขาดแคลนบุคลากรที่มีความพร้อมด้านการใช้งานเอไอ
ภาคเอกชนไทยส่วนใหญ่มีการใช้เอไอกับงานประเภทที่ต้องทำซ้ำ ขณะที่การนำเอไอช่วยดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังกับส่วนงานต่างๆ ขององค์กร เช่น การจัดการกับงานและกระบวนการที่ซับซ้อนในแผนกการเงิน ภาษี กฎหมาย ไอที และการปฏิบัติตามกฎระเบียบนั้น พบว่ามีสัดส่วนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน
ผลสำรวจยังพบว่า 61% ของซีอีโอไทยคาดว่าเอไอจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท พนักงาน และตลาดของตนภายใน 3 ปีข้างหน้า ที่น่าสนใจ คือ เจ้าของธุรกิจไทยไม่มีแผนงานที่จะลดจำนวนพนักงาน ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจดังกล่าวว่า ซีอีโอไทยมากกว่าครึ่ง หรือ 52% กล่าวว่า เอไอจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงานเพียงเล็ก น้อยไม่เกิน 5% เท่านั้น หรือแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
ทั้งนี้ สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น ฮิตาชิ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายชื่อดังระดับโลกของประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเตรียมฝึกอบรมพนักงานของบริษัทฮิตาชิจำนวน 50,000 คนภายในปี 2027 นี้ ให้มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เพื่อให้พนักงานนำไปพัฒนาบริการใหม่ๆ โดยการใช้ซอฟท์แวร์เจนเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) จำนวนพนักงาน 50,000 คนดังกล่าวคิดเป็น 20% ของจำนวนพนักงานฮิตาชิ 27,000 คนทั่วโลก โดยครอบคลุมถึงพนักงานภายในประเทศญี่ปุ่นและที่อยู่ในต่างประเทศของฮิตาชิ สำหรับพนักงานที่เข้าข่ายได้รับการฝึกอบรมในครั้งนี้จะอยู่ในสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานขนส่งทางถนนและระบบราง
