ไมโครซอฟท์ อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการโซลูชั่นไอที ซอฟท์แวร์ในระบบปฏิบัติการอุปกรณ์ไอที และบริการระบบจัดเก็บบริหารจัดการข้อมูลในเครือข่ายคลาวด์ระดับโลก เปิดเผยว่า อุปกรณ์ไอที เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภท อุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากการใช้งานไม่ได้มีถึง 8.5 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นไม่ถึง 1% ของอุปกรณ์ไอทีที่ใช้ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ยอมรับว่า ถึงแม้ในแง่สัดส่วนของอุปกรณ์ไอทีมีไม่ถึง 1% ของที่ใช้ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ทั่วโลกก็ตาม แต่ผลกระทบและความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมกลับเป็นวงกว้าง
จอสีฟ้ามรณะ หรือ Blue Screen of Death ที่ปรากฏเป็นจอสีฟ้าบนเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีที่ใช้ระบบปฏิบัติการของไมรซอฟต์ทั่วโลก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่สามารถใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมทำงาน ตลอดจนการติดต่อเชื่อมโยงโครงข่ายของทุกธุรกิจที่กระจากอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก
สาเหตุที่ระบบดังกล่าวล่มเป็นผลมาจาก คลาวด์สไตรค์ CloudStrike ซึ่งเป็นธุรกิจบริการความปลอดภัย และเสถียรภาพในระบบไซเบอร์ ได้ทำการปรับปรุงซอฟท์แวร์ในเครือข่ายระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ แต่กลับเกิดความผิดพลาดในการปรับปรุงระบบ จึงทำให้เกิดปัญหาเครือข่ายระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ ล่ม รวมถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่ได้
คลาวด์สไตรค์ โฮลดิ้งส์ อินคอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยมอบปริมาณงานการเจาะและการรักษาความปลอดภัยปลายทาง ข้อมูลภัยคุกคาม และบริการการโจมตีทางไซเบอร์