สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ เปิดเผยว่าปริมาณการผลิต น้ำมันดิบ ทั่วโลกในปี 2025 จะมีมากเกินความต้องการบริโภคน้ำมันดิบถึงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่า 1% ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก แนวโน้มนี้จะเป็นอุปสรรคต่อกลุ่มโอเปกพลัสในการจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ไออีเอยังปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 ขึ้นอีก 60,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขคาดการณ์ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในปี 2025 ที่ 990,000 บาร์เรลต่อวัน
ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในปี 2024 นี้ พบว่าลดน้อยลงมากกว่าที่คาดไว้ สาเหตุจากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศบริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกมาเป็นระยะเวลานานหลายปี ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนผ่านมาเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของน้ำมันดิบของจีนให้ชะลอลง ปัจจัยดังกล่าวกลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งการเติบโตของความต้องการบริโภค นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านมาใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างรวดเร็ว ยักยักส่งผลต่อการใช้น้ำมันในระบบขนส่งและการผลิตไฟฟ้าลดลง
ไออีเอยังคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของการบริโภคน้ำมันดิบในปี 2025 ไว้ที่ 990,000 บาร์เรลต่อวัน โดยประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกของโอเปกพลัสจะเพิ่มอุปทานได้ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยสหรัฐฯ แคนาดา กายอานา และอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ต่อไปว่า ส่วนเกินของปริมาณน้ำมันดิบในปีหน้าอาจทำให้โอเปกพลัสกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตได้ยากขึ้น หลังก่อนหน้านี้มีมติเลื่อนแผนการปรับลดกำลังการผลิตออกไป
ทั้งนี้ ไออีเอยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การบริโภคน้ำมันดิบในปี 2024 ขึ้นอีก 60,000 บาร์เรลต่อวัน มาเป็น 920,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นผลจากความต้องการบริโภคน้ำมันดีเซลสูงกว่าที่คาดไว้