สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบประมาณหนึ่งเดือน หลังกระแสข่าวเรื่องการเปิดตัว Spot Bitcoin ETF ของสหรัฐเริ่มซาลง
โดยกองทุน Spot Bitcoin ETF จากบริษัท 11 แห่งได้เริ่มต้นเปิดการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. เช่น แบล็กร็อก อิงค์ (BlackRock Inc) และฟิเดลิตี้ อินเวสต์เมนต์ส (Fidelity Investments) โดยราคาบิทคอยน์พุ่งทะลุ 49,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคอยน์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ในช่วงสั้นๆ หลังเริ่มมีการเปิดซื้อขายกองทุน Spot Bitcoin ETF ก่อนปรับตัวลดลงในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ราคาบิทคอยน์ร่วงลงมากถึง 1.9% ก่อนลดช่วงลบบางส่วนสู่ซื้อขายที่ระดับ 42,239 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิตคอยน์ ช่วง เวลา 9.00 น.ของวันนี้ (15 ม.ค.) ตามเวลาในสิงคโปร์ ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
โดยพบว่าบิทคอยน์ร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน ซึ่งนับเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว
ส่วนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่นๆ เช่น อีเธอร์ (Ether), บีเอ็นบี (BNB) และโซลานา (Solana) ปรับตัวไร้ทิศทาง
นายโทนี ซิคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทไอจี ออสเตรเลีย พีทีวาย (IG Australia Pty) ระบุว่า ผู้สังเกตการณ์ตลาดบางส่วนคาดการณ์เอาล่วงหน้าแล้วว่าราคาบิทคอยน์จะพุ่งขึ้นก่อนพลิกปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ซื้อเมื่อเกิดกระแสข่าวลือและขายเมื่อความจริงปรากฎ โดยนายซิคามอร์คาดการณ์ว่า บิทคอยน์อาจร่วงสู่ระดับ 38,000-40,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่ออิงตามสัญญาณต่างๆ จากรูปแบบชาร์ตสำหรับบิทคอยน์