น.ส.อโรรา อุนนะนันทน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า กรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยีไปเมื่อวันที่ 19 เมษายน ต้องการให้เพิ่มมาตรการควบคุมการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายนั้น
ที่ประชุมดังกล่าวมีการลงความเห็นชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่ โดยธปท.จะออกนโยบายเชิงหลักการให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยธปท.จะหารือกับสถาบันการเงินภายใต้การกำกับของ ธปท. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก่อน เบื้องต้นคาดว่าสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 ธปท.จะออกแนวนโยบายแล้วเสร็จ
โดยที่ผ่านมา แม้ ธปท.จะออกหลักเกณฑ์การรู้จักลูกค้า (เควายซี) สําหรับการเปิดบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินไปเมื่อปี 2562 กระบวนการมีการตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว แต่อาจไม่เข้มข้นมากนัก ดังนั้น สิ่งที่จะทำคือพิจารณากลุ่มที่มีความเสี่ยงที่ธนาคารต้องตรวจสอบให้เคร่งครัดมากขึ้น โดยการเปิดบัญชีโดยใช้เงื่อนไขใหม่จะทำกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มเสี่ยง หรือเป็นกลุ่มที่ ปปง.กำหนดให้รายงานข้อมูลสุ่มเสี่ยงต้องสงสัย หรือกลุ่มมีประวัติตามที่ ปปง.ได้ประกาศรายชื่อว่าเป็นกลุ่มต้องเฝ้าระวัง ส่วนกลุ่มคนที่เปิดบัญชีโดยปกติและไม่มีเจตนาจะเปิดบัญชี เพื่อนำไปเป็นบัญชีม้าก็ไม่ต้องกังวล และสามารถเปิดบัญชีได้ตามปกติ
นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้แทนประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เงื่อนไขในการเปิดบัญชีใหม่ ยอมรับว่าลูกค้า 99% ต้องได้รับผลกระทบ แต่จะเกิดขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้น หากลูกค้ามีข้อมูลเพียงพอในการตรวจสอบจะไม่มีปัญหา คาดว่าในอนาคตจะดีขึ้นเรื่อยๆ
