ศ. ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลการสำรวจภาวะบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระดับปริญญาตรีมีงานทำ พบว่า มีงานทำสูงถึง 92.62% เพิ่มขึ้นติดต่อกันจากรุ่นพี่ก่อนนี้ บัณฑิตเกินกว่าครึ่งได้ทำงานในภาคเอกชนถึง 64.77% อันดับ 2 มี 15.83% ทำงานเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ และอันดับที่ 3 มี 12.45% เป็นเจ้าของกิจการ หรือดำเนินธุรกิจอิสระ ที่สำคัญ บัณฑิตที่ได้งานทำมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากรุ่นปีที่ผ่านไปประมาณ 2.78%
ตัวเลขดังกล่าวนั้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่าเป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งของหลักสูตร และความพร้อมของบัณฑิตในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน มหาวิทยาลัยได้ให้การพัฒนาทักษะพิเศษสำคัญกับนักศึกษามาตลอดผ่านหลักสูตรหลายอย่าง เช่น หลักสูตรการบูรณาการทักษะวิชาชีพจริง การฝึกงานกับองค์กรชั้นนำในประเทศ และต่างประเทศ ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพที่ช่วยวางแผนเส้นทางอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ศ. ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยข้อมูลบัณฑิตจำนวนกว่า 6,366 คน พบว่า บัณฑิตจบจากกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพมีอัตรามีงานทำสูงสุดที่ 95.67% อันดับ 2 สายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ที่งานทำถึง 92.46% และอันดับ 3 สายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีงานทำที่ 91.32% นั่นหมายถึงความต้องการแรงงานในภาคสุขภาพที่ยังคงมีสูงต่อเนื่องหลังผ่านพ้นยุคแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และศักยภาพการพัฒนาของหลักสูตรและการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ กลุ่มบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ พบว่ามีอัตราการการได้งานทำสูงไม่แพ้กัน โดยมีมากกว่า 90% เช่น คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์มีถึง 98.33% คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมีถึง 96.56% คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีถึง 94.64% คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมีกว่า 93.36% คณะนิติศาสตร์มีถึง 92.04% คณะศิลปศาสตร์มีอยู่ที่ 91.39% และคณะศิลปกรรมศาสตร์มีอัตราได้งานทำ 91.18% เป็นต้น