กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศในยุโรป เปิดเผยว่ากำลังพิจารณาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งที่ 18 กับประเทศรัสเซีย ซึ่งจะประกอบไปด้วยการประกาศเพิ่มรายชื่อธนาคารพาณิชย์รัสเซียอีก 20 แห่งตัดออกจากระบบการทำธุรกรรมชำระเงินระหว่างประเทศ (SWIFT) หรือสวิฟท์ ตามด้วยการปรับลดเพดานราคาซื้อน้ำมันดิบของประเทศรัสเซียจากเดิม 60 ลงมาเหลือ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ห้ามการส่งออกก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม ไปยังประเทศรัสเซีย
กลุ่มอียูยังจะพิจารณาใช้มาตรการจำกัดการค้ากับประเทศรัสเซียมีมูลค่า 2,500 ล้านยูโร หรือ 2,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 93,720 ล้านบาท ทำให้รายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ 18 มีเป้าหมายในการตัดลดรายได้เข้าสู่ประเทศรัสเซียซึ่งจะนำไปสู่ข้อจำกัดยากมากขึ้นในการที่จะพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารของรัสเซียที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่
สำหรับมาตรการห้ามการส่งออกก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม ไปยังประเทศรัสเซียนั้น ได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งของยุโรป คือเยอรมนีเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้กลุ่มอียูคาดการณ์ว่าการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเสียครั้งที่ 18 จะได้รับมติครบพร้อมกันทั้ง 27 ประเทศเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศบังคับใช้อย่างเร็วที่สุด