นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.ในคืนที่ผ่านมาว่า อาจจะเกิดขึ้นได้ ผมยังตอบอะไรที่ชัดเจนไม่ได้ในเวลานี้ ผมได้ประกาศและลงนามในประกาศคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วยการเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ขึ้นอีก 25% กับประเทศอินเดีย สหรัฐอเมริกาจะใช้มาตรการขึ้นภาษีดังกล่าวกับอีกสองถึงสามประเทศ หนึ่งในนั้นอาจเป็นจีน
สอดคล้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา นายสก็อต เบสเซนต์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านไปว่าประเทศจีนจะต้องเผชิญกับการเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม หากจีนยังคงซื้อพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซีย
ย้อนกลับไปในคืนผ่านมา 6 สิงหาคม 2025 ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพื่อการบริหาร ให้ปรับขึ้นอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับสินค้านำเข้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% ทำให้อัตราภาษีดังกล่าวขึ้นเป็น 50% ให้มีผลภายใน 21 วันจากวันนี้ไป เพื่อเป็นการใช้มาตรการตอบโต้อินเดียที่ยังเพิกเฉยต่อคำเตือนที่ห้าไม่ให้อินเดียซื้อน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซีย
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมว่า จะเพิ่มอัตราภาษีต่างตอบแทนขึ้นอย่างมากมายกับสินค้านำเข้าจากอินเดีย จากในปัจจุบันที่ 25% โดยจะปรับขึ้นภายในเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากอินเดียไม่ใส่ใจต่อคำเตือนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ยังคงซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ข้อเสนอของรัฐบาลอินเดียในการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็น 0% ให้กับสินค้าของสหรัฐนั้น ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ประเทศอินเดียกำลังสนับสนุนการทำสงครามต่อเนื่องในยูเครน
อินเดียกำลังเติมน้ำมันให้กับเครื่องจักรสงคราม ซึ่งผมไม่พอใจ ประเด็นหลักที่เป็นอุปสรรคการเจรจาภาษีและการค้าระหว่างสหรัฐและอินเดียในช่วงที่ผ่านมา คือ อัตราภาษีของอินเดียที่เก็บกับสินค้าจากสหรัฐอเมริกามีอัตราที่สูงเกินไป ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 1 ใน 3 ของความต้องการภายในประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลเกี่ยวกับอินเดีย และรัสเซีย มีดังนี้
ผมไม่สนใจว่าอินเดียจะทําอะไรกับรัสเซีย ทั้งอินเดียและรัสเซียพาเศรษฐกิจที่หมดสภาพแล้วลงไปด้วยกัน นั่นคือทั้งหมดที่ผมสนใจ สหรัฐทําธุรกิจกับอินเดียน้อยมาก ภาษีศุลกากรของอินเดียก็สูงเกินไป สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ในทํานองเดียวกัน รัสเซียและสหรัฐอเมริกาแทบจะไม่ทําธุรกิจร่วมกันเลย ให้เป็นอย่างนี้ต่อไป บอกนายเมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียที่ล้มเหลว ซึ่งตัวเขาคิดว่าเขายังคงเป็นประธานาธิบดี ให้ระวังคําพูดของเขา นายเมดเวเดฟกําลังเข้าสู่โซนอันตรายมาก!
การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ในคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงเจรจาภาษีและการค้ากับประเทศอินเดีย มีข้อความดังนี้
คงจำกันได้ว่า ขณะที่อินเดียเป็นเพื่อนของสหรัฐอเมริกา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาทําธุรกิจกับอินเดียค่อนข้างน้อย เนื่องจากภาษีศุลกากรของอินเดียสูงเกินไป สูงที่สุดในโลก และอินเดียสร้างอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ทางการเงินที่มากมาย และเป็นที่น่ารังเกียจที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศในโลก นอกจากนี้ อินเดียซื้ออาวุธทางทหารส่วนใหญ่จากรัสเซียมาตลอด และยังเป็นผู้ซื้อพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียพร้อมกับจีน
ในเมื่อทุกคนต้องการให้รัสเซียหยุดการสังหารในยูเครน — ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ดีขึ้นเลย! ดังนั้น อินเดียจะจ่ายภาษี 25% บวกกับค่าปรับสำหรับเหตุผลข้างต้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ สร้างอเมริกายิงใหญ่อีกครั้ง!
การประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ที่ 25% กับอินเดียในครั้งนี้ พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลดอัตราภาษีดังกล่าวลง 1% เมื่อเทียบกับครั้งแรกในวันที่ 2 เมษายน 2025 ที่ประกาศเก็บที่อัตรา 26%
ก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวมาตลอดในช่วงสัปดาห์ผ่านมา โดยเฉพาะในคืนวานนี้ 29 กรกฎาคม 2025 ว่า ให้เวลารัสเซียแค่ 10 วันในการสร้างความคืบหน้าต่อการยุติสงครามกับยูเครน หากไม่ทันตามวันที่กำหนดไว้ จะประกาศใช้มาตรการภาษี 100% กับสินค้าจากประเทศรัสเซียพร้อมด้วยประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบที่สองกับประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบ และสินค้าอื่นๆจากประเทศรัสเซีย ซึ่งเป้าหมายชัดเจนว่า สหรัฐอเมริกาพุ่งเป้าหมายที่จีนและอินเดียที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สหรัฐให้เวลารัสเซีย 50 วัน