วันนี้ 23 ตุลาคม 2025 เมื่อเวลา 8.50 น. ตามเวลาในยุโรป หรือตรงกับ 13.50 น. ตามเวลาไทย กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียูนำโดยประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนกลุ่มอียู แถลงมติกลุ่มสหภาพยุโรปด้วยการประกาศมาตรการคว่ำบาตรพลังงานชุดที่ 19 กับประเทศรัสเซีย ประกอบด้วยกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ ยกเลิกการสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติ หรือแอลเอ็นจีจากประเทศรัสเซียทั้งระยะสั้นและระยะยาว สำหรับระยะสั้น ได้แก่สัญญาการซื้อก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจีจากรัสเซีย ให้ยกเลิกภายใน 6 เดือนสำหรับสัญญาระยะยาวทั้งหมดให้ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2027 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กลุ่มสหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ 2 บริษัทผลิตพลังงาน หรือน้ำมันดิบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย ได้แก่ ลุคออยล์ และรอสเนฟท์ และเพิ่มจำนวนกองเรือขนส่งสินค้าน้ำมันดิบที่ลักลอบขายน้ำมันดิบของประเทศรัสเซียในตลาดโลกหรือที่เรียกว่ากองเรือเงา หรือ ชาโดว์ ฟลีท โดยจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นในครั้งนี้มีอีก 117 ลำรวมทั้งทั้งสิ้น 558 ลำ
กลุ่มสหภาพยุโรปดำเนินมาตรการ คว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียโดยเพิ่มวงจำกัดการเดินทางหรือการท่องเที่ยวของเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซีย นอกจากนี้เพิ่มรายชื่อคว่ำบาตรสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ทำธุรกรรมกับประเทศรัสเซียโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้อยู่ในประเทศคาซัคสถาน และประเทศเบลารุส
สำหรับมติที่เป็นเอกฉันท์ในการคว่ำบาตรพลังงานชุดที่ 19 กลับประเทศรัสเซียในครั้งนี้เกิดความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่ประเทศสโลวาเกียยังไม่มีความพร้อมที่จะลงมติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในที่สุดรัฐบาลประเทศสโลวาเกียเห็นชอบสนับสนุนมาตรการดังกล่าวร่วมกับสมาชิกในกลุ่มสหภาพยุโรป
ในคืนผ่านมาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกากล่าวว่า เนื่องจากประธานาธิบดีรัสเซียนายวาริเมียปูตินแสดงออกอย่างชัดเจนในการปฏิเสธจะยุตติการทำสงครามที่ไร้เหตุผลกับประเทศยูเครน ท่ามกลางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศจำนวนมากใช้ความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการยุติทั้งสงครามและความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและประเทศยูเครน
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจึงประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ 2 บริษัทผลิตพลังงานยักษ์ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียเนื่องจากมีการตรวจสอบและพบหลักฐานชัดเจนว่า ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ลุคออยล์ และรอสเนฟท์ นำรายได้ที่ได้จากการขายพลังงานไปสนับสนุนการทำสงครามกับประเทศยูเครน ในขณะที่ ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า รัฐบาลรัสเซียโดยกองทัพของรัสเซียมีการฝึกซ้อมทางการทหาร โดยเฉพาะการฝึกอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้พบปะหารือแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่อลาสก้า ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมสุดยอดของผู้นำทั้งสองฝ่ายครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี เพื่อเป้าหมายในการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นผ่านมา ไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น
รวมถึงในสัปดาห์ผ่านไป ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้โทรศัพท์พูดคุยสายตรงกับประธานาธิบดีรัสเซีย ทำให้นำไปสู่แผนการพบปะหารือครั้งที่ 2 เพื่อที่จะยุติปัญหาดังกล่าว โดยกำหนดไว้ว่าจะมีขึ้นที่กรุงบูดาเพสท์ ประเทศฮังการี ภายใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยว่า แผนงานดังกล่าวได้ยกเลิก และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะไม่มีการพบปะหารือใดใดทั้งสิ้นกับประเทศรัสเซีย หลังจากมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจนว่า รัฐบาลรัสเซียได้ปฏิเสธข้อเสนอในการหยุดยิงกับประเทศยูเครน
