ก.ล.ต. จับมือ ปปง. ปราบอาชญากรรมไซเบอร์  ปรับกฎหมายสแกนผู้ถือหุ้นเข้มงวด

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยในงานแถลงข่าว “การประสานความร่วมมือกับ ปปง. และการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.” ว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญประเด็นใหญ่ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับหุ้นในตลาดรวม 7 ตัว ทำให้ ก.ล.ต. ต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที

และในช่วงเช้าวันนี้กัน ก.ล.ต. ได้เข้าหารือกับ ปปง. เพื่อรับข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นต่อการติดตามเส้นทางเงินของเครือข่ายผู้กระทำความผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมย้ำความร่วมมือในการดำเนินมาตรการยึดและอายัดทรัพย์อย่างใกล้ชิด

โดยทั้งสองหน่วยงานยังหารือถึงการเร่งปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรม โดยเน้นเครื่องมือสำคัญ ได้แก่ Travel Rule สำหรับติดตามเส้นทางเงินผ่านตัวกลาง รวมทั้งการตรวจสอบผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate Beneficiary Owner: UBO) ในโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อน และ มาตรฐาน KYC/CDD เพื่อให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการฝ่าฝืนด้านการครอบงำกิจการได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และให้ ปปง. ใช้เพื่อพิสูจน์คดีฟอกเงิน

โดยเชื่อว่าการปรับกฎหมายจะช่วยให้ทั้งสองหน่วยงานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ก.ล.ต. จับมือ ปปง. ปราบอาชญากรรมไซเบอร์  ปรับกฎหมายสแกนผู้ถือหุ้นเข้มงวด

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยในงานแถลงข่าว “การประสานความร่วมมือกับ ปปง. และการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.” ว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญประเด็นใหญ่ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับหุ้นในตลาดรวม 7 ตัว ทำให้ ก.ล.ต. ต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที

และในช่วงเช้าวันนี้กัน ก.ล.ต. ได้เข้าหารือกับ ปปง. เพื่อรับข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นต่อการติดตามเส้นทางเงินของเครือข่ายผู้กระทำความผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมย้ำความร่วมมือในการดำเนินมาตรการยึดและอายัดทรัพย์อย่างใกล้ชิด

โดยทั้งสองหน่วยงานยังหารือถึงการเร่งปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรม โดยเน้นเครื่องมือสำคัญ ได้แก่ Travel Rule สำหรับติดตามเส้นทางเงินผ่านตัวกลาง รวมทั้งการตรวจสอบผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate Beneficiary Owner: UBO) ในโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อน และ มาตรฐาน KYC/CDD เพื่อให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการฝ่าฝืนด้านการครอบงำกิจการได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และให้ ปปง. ใช้เพื่อพิสูจน์คดีฟอกเงิน

โดยเชื่อว่าการปรับกฎหมายจะช่วยให้ทั้งสองหน่วยงานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles