ในที่สุดก็เข้าช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ที่หลายสถานที่เริ่มจัดเตรียมอีเวนต์ กิจกรรม หรือโปรโมชันดึงดูดใจให้ทั้งคนไทยและต่างชาติเกิดความอยากจะไปท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ BTimes ขอถือโอกาสเปิดฤกษ์พาไปเจาะย่านเศรษฐกิจร่วมสมัยอย่างเยาวราช และบรรทัดทอง ที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม และร้านอาหารชื่อดังมากมาย
ทั้ง 2 ย่านนั้นตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่ง Street Food ระดับโลก อีกทั้งในปีนี้ก็มีข่าวดี เพราะกรุงเทพฯ คว้าอันดับ 2 เมืองที่มีอาหารดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Time Out
‘เยาวราช’ หรือ ‘ไชน่าทาวน์’ คือย่านการค้าเก่าแก่ของลูกหลานชาวมังกร หลายคนมักเปรียบเทียบว่าเยาวราชเป็นถนนสายทองคำ โดยถนนเยาวราชได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยชื่อถนนยุพราช ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเยาวราชดังเช่นปัจจุบัน ย้อนกลับไปในอดีตถนนเยาวราชมีเส้นทางคดเคี้ยวคล้ายมังกร รวมความยาวได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ตลอดทั้งเส้นทางยังเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยนับไม่ถ้วน ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจริญไปด้วยการค้าขาย มีการเปรียบเทียบว่าส่วนหัวของมังกรได้เริ่มต้นที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา หรือบริเวณวงเวียนโอเดียน ต่อด้วยส่วนท้องได้แก่ตลาดเก่า ก่อนจะมาบรรจบที่บริเวณหางนั่นคือส่วนปลายสุดของถนนนั่นเอง แม้ช่วงหนึ่งเมื่อราวๆ 4-5 ปีก่อน มังกรจะเคยโดนโรคระบาดตีจนสลบ แต่ ณ ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ก็กลับมาคึกคักพร้อมต้อนรับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ร้านรวงทั้งเก่าและใหม่ต่างพร้อมใจกันปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็ยังคงอัตลักษณ์อันเป็นเสน่ห์ที่ตกใจผู้คนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
‘บรรทัดทอง’ อีกหนึ่งย่านการค้าสำคัญที่ไม่เคยหลับใหล ไม่ว่าใครจะอยากได้อะไหล่รถ หรืออุปกรณ์ยันเสื้อผ้ากีฬา ก็ต้องนึกถึงบรรทัดทองเป็นแห่งแรกๆ แต่ในปัจจุบันบรรทัดทองถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นอาณาจักรสตรีทฟู้ดระดับโลกที่รวมร้านเก่าร้านดังมาประชันกันไว้มากมาย จนขึ้นแท่นแลนด์มาร์คด้านอาหารที่ทำเอาผู้บริโภคทั้งไทยและเทศยอมเข้าคิวรอหลายชั่วโมง เพื่อที่จะได้ไม่ตกเทรนด์อร่อยบอกต่อ และแม้ในปัจจุบันย่านการค้าแห่งนี้จะอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลายร้านโบกมืออำลา เพราะสู้ค่าเช่าและต้นทุนด้านอื่นๆ ที่สูงขึ้นไม่ไหว กลับกันก็มีหลายร้านที่ยอมกัดฟันสู้กระโจนเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ เพื่อสร้างตำนานความอร่อยบทถัดไปพร้อมๆ กัน
เมื่อไรก็ตามที่โลกเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยน หัวใจสำคัญที่ทำให้ตำนานเดินต่อได้คือการสร้างสมดุลการค้า เพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ดั้งเดิม เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ตลอดจนรักษาลมหายใจของย่านเศรษฐกิจร่วมสมัยให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
