“บราซิล” ประกาศยังไม่อนุญาตให้นำเข้าวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย พบมีข้อบกพร่องทำให้เกิดอาการข้างเคียงหลายแบบ

หน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขของบราซิล(Anvisa) ได้สั่งห้ามนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 สปุตนิก วี (Sputnik V) ที่ผลิตโดยรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของคณะกรรมการ Anvisa ได้พิจาณาจากข้อมูลด้านการรับรองความปลอดภัย, คุณภาพ และประสิทธิภาพ จึงได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงและความบกพร่องที่ร้ายแรงของวัคซีน

.

ขณะที่นายกัสตาโว เมนเดส ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านชีวภาพและเภสัชภัณฑ์ของ Anvisa ระบุว่า ประเด็นที่สำคัญก็คือ อะดีโนไวรัส (Adenovirus) ที่ปรากฎจำนวนเพิ่มขึ้นในวัคซีนนั้นได้ถือเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรงมาก โดยอะดีโนไวรัสเป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการได้หลากหลาย เช่นเป็นหวัด ตาแดง เส้นเสียงอักเสบ หลอดลมส่วนปลายอักเสบ และปอดบวม ซึ่งการทำงานของอะดีโนไวรัสจะนำไวรัสสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ ซึ่งอะดีโนไวรัสที่เป็นเพียงแค่ไวรัสตัวนำ นั้นไม่ควรจะเพิ่มจำนวนได้เนื่องจากถูกตัดแต่งทางพันธุกรรมแล้ว ดังนั้นการเพิ่มจำนวนของอะดีโนไวรัสในวัคซีนสปุตนิกไฟว์จึงถือเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง

.

ทางด้าน อานา แคโรลินา โมเรียรา มาริอาโน อารัวโจ ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจการด้านสาธารณสุขของ Anvisa กล่าวว่า หลังจากที่ได้พิจารณาเอกสารทั้งหมดวัคซีนโควิดสปุตนิก วี, ข้อมูลที่รวบรวมได้ในระหว่างการตรวจสอบรายบุคคล และข้อมูลจากหน่วยงานอื่นๆ นั้นพบว่า วัคซีนสปุตนิก วี มีความเสี่ยงและถือเป็นเรื่องใหญ่

.

ทั้งนี้ แม้ว่าหลายประเทศทั่วโลกจะให้การรับรองวัคซีนสปุตนิก วี และนักวิทยาศาสตร์รัสเซียก็ ได้อ้างว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสโควิด-19 ได้ถึง 97.6% แต่หน่วยงานสาธารณสุขของบราซิล และสหภาพยุโรปยังไม่ให้การอนุมัติ เนื่องจากจำเป็นต้องมีข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติมทั้งในด้านผลการทดลองและกระบวนการผลิต ซึ่งบราซิลได้มีการสั่งห้ามการนำเข้าวัคซีนสปุตนิกไฟว์ ถึงเเม้ว่าผู้การรัฐต่างๆในบราซิลได้ยื่นคำร้องให้ Anvisa ออกใบรับรองการนำเข้าวัคซีน เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด