ทำได้แต่! เอกชนชี้เงินดิจิทัล 10,000 บาทต้องช่วยกลุ่มจำเป็น หรือเดือดร้อนมาก่อน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศว่าจะใช้เมื่อได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว หากดูจากเงื่อนไข จะพบว่าจำนวนผู้มีอายุ 16 ปี ขึ้นไปจะมีประมาณ 50 ล้านคน หากจะอัดฉีดเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่อคน ก็ต้องใช้งบประมาณ 500,000 ล้านบาท

ดังนั้น ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า ในหลักการการอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวเข้าถึงมือประชาชนเลย ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวบวกเพิ่มประมาณ 2.5 – 3% แต่การใช้เงินดิจิทัลในรัศมี 4 กิโลเมตร บางพื้นที่ที่เป็นเมืองใหญ่ อาจจะมีร้านค้าทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก แต่บางพื้นที่ที่ห่างไกลมีอาจจะมีเฉพาะร้านขนาดเล็ก ร้านขนาดกลาง ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ไม่เข้าสู่ระบบภาษี

ส่วนนี้ต้องพิจารณาด้วยว่ารัฐบาลจะจัดเก็บภาษีคืนได้มากและคุ้มค่าพอหรือไม่ หรือ หากมองว่านี่เป็นโอกาส ก็อาจจะต้องดึงดูดให้ร้านค้าขนาดกลาง และขนาดเล็กเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้อง จึงจะช่วยขยายฐานการจัดเก็บภาษีของประเทศได้ ในด้านดีนั้น เชื่อว่าประชาชนจะตื่นตัวและเข้าถึงระบบดิจิทัลมากขึ้น

ในอีกด้านหนึ่งนั้น งบประมาณที่ใช้ 10,000 บาทต่อคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปก็จริง แต่ในความเป็นจริง ควรให้กับกลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ก่อนหรือไม่ จะทำให้ไม่ต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก หรือ บางคนอาจจะไม่ได้ต้องการเงินเพราะมีกำลังซื้ออยู่แล้ว