พลิกวิกฤติบนโอกาสใหม่ พลังเศรษฐกิจสาวสอง ทิฟฟานี่โชว์ l 8,12 ต.ค. 65 FULL l BTimes
Oct 13, 2022
เจาะกระแสฟื้นการท่องเที่ยวพัทยาและการกลับมาเปิดของทิฟฟานี่โชว์กับ อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน ทายาทรุ่นที่ 2 แห่งทิฟฟานี่โชว์
“พัทยามี SEA SAND SUN ใกล้และเดินทางเร็วที่สุดจากสนามบินสุวรรณภูมิ เข้าถึงง่าย ราคาเหมาะสม ทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกันบริหารให้เสน่ห์ของเมืองนี้คงอยู่”
ช่วงหนึ่งจากบทสัมภาษณ์พิเศษของคุณจ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน ผู้บริหารทิฟฟานี่โชว์ รวมทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารอีกหลายแห่งในเมืองพัทยาที่รายการ BTimes โดยคุณบัญชา ชุมชัยเวทย์ ได้มีโอกาสไปเยือนพัทยาในวันที่ทิฟฟานี่โชว์กลับมาเปิดการแสดงอีกครั้งในรอบ 3 ปี หลังจากต้องปิดการแสดงไปยาวนานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 กระทบภาคการท่องเที่ยวทั้งประเทศต้องซบเซาไปตามๆ กัน และในวันที่ทุกอย่างคลี่คลาย ภาคธุรกิจท่องเที่ยวพัทยาจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้กลับมาเมืองที่ไม่เคยหลับแห่งนี้อีกครั้ง โดยคุณจ๋าได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งหมดนี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ปรับองค์กรสู้วิกฤต
“กว่าเราจะสร้างคนให้มาเป็นนักแสดงเอกของทิฟฟานี่ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8 ปี กว่าจะรู้การแสดงต่อหน้าผู้คน การก็ใส่คาแรคเตอร์ตัวละครไปในโชว์ เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่จะมาแทนกันได้ ถ้าเราเสียเขาไปเราหาตัวแทนยากมาก เราไม่สามารถขาดเขาได้เลย”
สำหรับทิฟฟานี่โชว์ คุณจ๋าเล่าว่า ตลอดการเปิดแสดง 48 ปี ไม่มีเคยปิดแม้แต่วันเดียว โชว์ทุกวัน 7 วัน 3 รอบต่อวัน ยอดนักท่องเที่ยวที่เข้าสมสะสมสูงถึง 40 ล้านคน เป็นโชว์ที่ติดอันดับโลก และเป็นอันดับต้นๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนพัทยา แต่เมื่อเจอวิกฤตต้องปิดโรงละคร คุณจ๋ายังจ่ายเงินเดือนพนักงานในจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ บางส่วนถูกปรับเปลี่ยนให้ไปทำงานในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่คุณจ๋าดูแลอยู่ โดยได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน หน้าที่ก็มีทั้งการดูแลเรื่องเสื้อผ้า เสิร์ฟอาหาร จัดดอกไม้ ตกแต่งต้นไม่ ซักรีด แสดงโชว์ในร้านอาหาร โดยเรียนรู้งานใหม่ทั้งหมด ไม่เกี่ยงตำแหน่ง แม้ว่าก่อนหน้าจะเป็นนักแสดงที่อยู่ในแสงไฟแต่งตัวสวยๆ แต่ทุกคนปรับตัว และเพิ่มศักยภาพในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งคุณจ๋าที่เป็นผู้บริหารก็รู้สึกชื่นชมที่พนักงานรักทิฟฟานี่โชว์และสู้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อรอวันกลับมาแสดงอีกครั้ง
การกลับมาของทิฟฟานี่โชว์
“เมื่อข้อจำกัดการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวลดลงเรื่อยๆ เราก็คิดว่าทิฟฟานี่ควรเปิดได้แล้ว เพราะทิฟฟานี่เกิดมาพร้อมกับพัทยา ถ้าไม่เปิดพัทยาสาย 2 ก็จะไม่มีการท่องเที่ยวเชิงเอนเตอร์เทนเม้นเลย เมื่อมันมีสัญญาณที่ลูกค้าจะกลับมาได้”
1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา คุณจ๋าตัดสินใจกลับมาเปิดทิฟฟานี่โชว์อีกครั้ง นอกจากเป็นการดูแลพนักงานหลายร้อยชีวิตแล้วเพราะเธอยังมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น การกลับมาครั้งนี้คุณจ๋าลงทุนปรับเปลี่ยนโรงละคร แสง สี เสียง ฉาก และโชว์ ให้มีความตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์โชว์ที่เป็นตำนานของทิฟฟานี่ไว้ให้ได้ชมกัน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมโชว์ที่ตระการตามากขึ้นแล้ว นักแสดงเองมีความสุขที่ได้กลับมาบนเวทีและทำในสิ่งที่เขารักอีกครั้ง หลังจากที่ต้องสู้กับวิกฤตมาหลายปี แม้ว่านักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดระบาด เพราะขาดกำลังสำคัญอย่างนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งคุณจ๋ามองว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะคึกคักเท่าเดิม
“นักแสดงทิฟฟานี่เขาเป็นแม่เหล็กที่สำคัญในวันที่เปิดการแสดงแรกๆ มีนักท่องเที่ยวจากทั้งญี่ปุ่น เกาหลีบินมาดู และแฟนคลับก็มาให้กำลังใจ และให้ดอกไม้ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก”
อนาคตการท่องเที่ยวไทยและพัทยา
นอกจากนี้คุณจ๋าในฐานะของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานได้แลกเปลี่ยนมุมมองทิศทางการท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิดผ่อนปรน
“คิดว่าการท่องเที่ยวกลับมาฟื้น แต่เราเองต้องช่วยกันทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดี เพราะเราก็ต้องแข่งขันกับหลายประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของคนเราต้องพัฒนาคนในภาคการท่องเที่ยว เพราะจากสถานการณ์ที่ผ่านมาคนภาคการท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์เดินทางกลับบ้านเกิด เกษียณอายุ หรือมีธุรกิจเป็นของตัวเองอาจจะกลายเป็นปัญหา… ระยะทางยังอีกยาวไกลต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมา เพราะที่ผ่านมาเราพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเกือบ 20 ปี ถ้าจีนยังคงนโยบายนี่อยู่ก็จะทำให้การท่องเที่ยวไทยลำบากอีกหลายปี”
นอกจากนี้ต้องมีการสร้างแบรนด์ดิ้ง และสร้างการท่องเที่ยวแบบองค์รวม ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ผู้นำต้องเห็นความสำคัญของการเพื่อพัฒนาเมือง และสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่แออัด ซึ่งเป็นความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศกลับไปสู่สถานการณ์ก่อนหน้าโควิดระบาดได้ พัทยาเองก็เช่นกันที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการออกแบบเมืองและการท่องเที่ยวให้เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวยังคงอยู่ เปลี่ยนมาทำการตลาดในแบบกลยุทธ์สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว โดยย้อนกลับมาทำโครงสร้างเมืองให้ดีให้น่าอยู่ เมื่อได้รับการชื่นชมจากนักท่องเที่ยวจะเกิดกระแสที่ดีก็แทบจะไม่ต้องทำการตลาด ในอนาคตหากสามารถสร้างให้พัทยาเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ เป็นเมืองรองจากกรุงเทพมหานคร เพราะพัทยามีครบทุกอย่าง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก
ท้ายสุดนี้แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงไม่กลับมาเต็มกำลัง และต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่คุณจ๋ายังมองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวไทย เพราะที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวในระดับที่คุณภาพดีมากๆ จะรองรับต่างชาติและราคาสูง ปัจจุบันปรับราคาลงทำให้คนไทยเข้าถึงของดีได้มากขึ้น และภาคท่องเที่ยวยังคงมีความหวังอยู่เสมอที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเหมือนที่ผ่านมา
