BTimes : ‘D.K. Bakery’ เข้าหา-ใจถึง-ทำให้เห็น ผสม DNA คน 2 รุ่นปั้นขนมปังแห่งสีลมสู่อนาคต

1948
1
Share:

June 3, 2020

ผสาน DNA วัยเก๋าและวัยใหม่ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ปั้น D.K. Bakery ให้เติบโตอย่างแข็งแรง โดยคงความคลาสสิคจากรุ่นแรกไว้อย่างเหนียวแน่น

คุณธนวัฒน์ ภู่เจริญศิลป์ เจ้าของร้าน D.K. Bakery

คุณธนวัฒน์ หรือคุณบอลบอกว่าการรับไม้ต่อสานธุรกิจดั้งเดิมจากรุ่นนึงสู่อีกรุ่นนึง นับเป็นเรื่องที่ยาก โดยคุณพ่อบอกเขาเสมอว่าท่านได้สร้างบันได 100 ขั้นไว้ให้แล้ว ที่เหลือนับจากนี้คือสิ่งที่คุณบอลต้องคิดว่าจะเดินต่อไปอย่างไร

“อย่าไปทะเลาะกับรุ่นแรก อย่างน้อยเราต้องคิดว่าเค้าเป็นคนที่เริ่มสร้างมาจากสมัยที่เป็นศูนย์ เราโชคดีแค่ไหนแล้วที่เรามาต่อยอดจากเค้า”

การเปิดใจรับฟังความเห็นจากคนรุ่นก่อน เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณบอลยึดถือและนำมาหาค่าตรงกลาง เพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ แม้แรกๆ ที่เข้ามารับช่วงต่อจะโดนกระแสต่อต้านจากคุณพ่อ แต่ก็ไม่ย่อท้อ ใช้ความใจเย็น และค่อยๆ อธิบายอย่างมีสติ เพื่อสร้างความเข้าใจ และทำให้เห็นว่าสิ่งที่ต้องการปรับปรุง มันสามารถปั้นให้ D.K. Bakery เติบโตและประสบความสำเร็จได้ สุดท้ายก็ได้รับการยอมรับและไว้ใจให้สานต่อกิจการเบเกอรี่

ขนมปังร้าน D.K. Bakery

อย่างที่ทราบกันดีว่า D.K. Bakery ให้ความสำคัญกับเรื่องวัตถุดิบเป็นอย่างมาก กระทั่งลองผิดลองถูกนำวัตถุดิบที่เขาว่าดีจากหลากหลายประเทศมาทดลองใช้ จนได้ออกมาเป็นขนมปังแสนอร่อยดังเช่นทุกวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมองกว้างไปถึงเรื่องของ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ จากเดิมที่เป็นเพียงกล่องกระดาษสีขาว แล้วแสตมป์ด้วยตราร้าน ก็ปรับให้มีความสวยงาม และสร้างการจดจำได้มากขึ้น พร้อมเปิดใจ รับฟังความเห็นจากลูกค้า หรือแม้แต่การจำลองความรู้สึกตัวเองเป็นลูกค้า เพื่อค้นหาความต้องการ ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘รักลูกค้าให้เหมือนรักตัวเราเอง’ พร้อมทดลองทำขนมสูตรใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนได้สิ่งที่ดีและพึ่งพอใจมากที่สุดออกวางจำหน่าย

“สิ่งแรกคือคุณต้องมีกำลังใจก่อน คุณอย่าเพิ่งยอมแพ้ แต่ก่อนที่จะมีกำลังใจเนี่ย คุณกลับมาคิดก่อนว่าคุณอยากทำอะไร จริงๆ แล้วคุณถนัดอะไร แล้วคุณต้องถนัดจริงๆ ก่อน ถ้าคุณไม่ถนัดคุณต้องไปหาความรู้ในสิ่งเหล่านั้นก่อนที่คุณจะทำ”

คุณบอลย้ำเสมอว่า สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือการรู้จักตัวเอง ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองนั้นถนัดอะไรจริงๆ เพื่อที่จะก้าวไปต่อได้ หากชอบ แต่ไม่มีความรู้ ก็เพียงแค่ขวนขวายอย่างจริงจังก่อนจะเริ่มลงมือทำ และต้องทำด้วยความตั้งใจ เปิดใจ ยอมรับฟังคำแนะนำจากคนรอบข้าง หรือผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่า เพราะพวกเขาเหล่านั้นอาบน้ำร้อนมาก่อน ดังนั้นคำสอนต่างๆ จึงมีความหมายต่อการนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน

 

BTimes