BTimes : ‘Impani’ จับเสน่ห์คู่มูลค่าเพิ่มบนผ้าขาวม้าไทย

1630
0
Share:

May 28, 2020

Impani กล้าที่จะฉีกกฎเดิม เปลี่ยนรูปแบบ ปลุกชีวิตผ้าขาวม้าไทยให้กลับมาโลดแล่นในตลาดอีกครั้ง

ผ้าขาวม้า เป็นผ้าทอที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน โดยรูปแบบก็จะเน้นเป็นลายตารางทีมีสีสันสดใสตัดกันชัดเจน แต่แล้ววันนึงก็เดินทางมาถึงทางตัน ทำให้รายได้ของผู้ผลิตลดลง จนมีคนรุ่นใหม่เกิดความกล้าลุกขึ้นมาปฏิรูปรูปลักษณ์ผ้าขาวม้าให้มีความทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ภายใต้แบรนด์สุดเท่ ‘Impani’

คุณเอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าขาวม้า Impani

ขึ้นไทม์แมชชีนย้อนกลับไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ในรุ่นคุณปู่ของคุณเอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์ ในตอนนั้นผ้าขาวม้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนผลิตไม่ทันต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากมีกี่กระตุกสำหรับใช้งานเพียงไม่กี่ตัว จึงเริ่มมองหาแนวทางใหม่นำเครื่องจักรเข้ามาใช้เพิ่ม และจัดตั้งเป็นโรงงาน แต่แล้วก็พบอุปสรรค เนื่องจากผ้าขาวม้าได้รับความนิยมลดลง ทำให้ต้องกลับมาหาแนวทางใหม่ ฉีกรูปแบบเดิม กล้าที่จะปรับรูปลักษณ์และการใช้คู่สีที่ต่างกันออกไป ดึงความเป็นพาสเทลเข้ามา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ สร้างการจดจำผ่านแบรนด์ Impani แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ทำให้คุณเอกสิทธิ์ต้องกลับมาคิดหนักอีกครั้ง ลุยปรับกลยุทธ์บุกเปิดตลาดใหม่ที่แหวกแนวจากเดิม พร้อมนำเสนอลูกค้าด้วยตนเอง แต่ก็ยังไม่เป็นผล จนมาจบที่การเปลี่ยนรูปแบบจากผ้าผืนไปเป็นกางเกงเล เปลี่ยนจากการใช้ผ้าโทเรมาเป็นผ้าขาวม้า พร้อมนำเสนอแล้วดำเนินการผลิต กระจายไปวางจำหน่ายตามตลาดย้อนยุค ปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ทำให้ผ้าขาวม้ากลับมาบูมและมีชีวิตอีกครั้ง

ผลิตภัณฑ์ ผ้าขาวม้า Impani

“แต่ละตลาดจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน คือถ้าเราไปขายของที่เป็น Souvenir เนี่ย เขาก็ต้องบอกว่าเสื้อผ้าเขาไม่เอา เราก็ต้องทำตุ๊กตาเข้าไป หรือเป็นของที่หยิบง่ายหยิบไว เราก็พยายามหามุมมองต่างๆ หารูปแบบต่างๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เรามีอยู่ในมือให้มันครบถ้วนมากที่สุด”

ความยากยังไม่จบเพียงเท่านั้น การจะวางจำหน่ายในตลาดย้อนยุคแต่ละแห่งได้ จำเป็นต้องมีการปรับรูปแบบให้มีความเข้ากันกับสไตล์ และความต้องการของลูกค้าในแต่ละที่ จึงทำให้ Impani ปรับตัวเซ็ทใหญ่ ครีเอทสินค้าขึ้นมาในหลากหลายรูปแบบ พร้อมส่งออกผ้าขาวม้าไทยในรูปแบบผ้าผืนไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยทำการผลิตให้ตรงกับโจทย์ที่ได้รับ

ยุโรป คือแผนในอนาคตที่ Impani ตั้งเป้าที่จะโกอินเตอร์ ร่วมไปกับการศึกษาข้อมูล ความชื่นชอบ ความต้องการของตลาดเพิ่มเติม เพื่อนำมาปรับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าขาวม้าไทยกลายเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น

ทุกวันนี้คุณเอกสิทธิ์มีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถพลิกฟื้นให้ผ้าขาวม้ากลับมามีชีวิตโลดแล่นอีกครั้ง พร้อมยินดีที่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายอื่นหันกลับมาเห็นถึงความสำคัญของผ้าขาวม้า โดยย้ำเสมอว่าตนเองมีหน้าที่พัฒนารูปแบบสินค้าให้ดีขึ้นไป พร้อมกับการสร้างมูลค่าและการจดจำให้กับผู้บริโภค

BTimes