พูดหยุดโกง! ต้องพักก่อน เพราะประชาชนบอกเราได้พูดไปหมดแล้ว!

อีกประเด็นร้อนแรงที่ถูกชาวเน็ตกล่าวถึงเป็นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นแคมเปญ #พูดหยุดโกง โครงการหนึ่งภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เลือกใช้ศิลปินและนักแสดงเป็นตัวกลางในการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องการไม่โกง ซึ่งหลังจากที่คนดังต่างพร้อมใจกันออกมาโพสต์รูปและติดแฮชแท็ก ‘พูดหยุดโกง’ ก็ส่งผลให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ถูกวิจารณ์จากสังคมอย่างหนักหน่วง

แคมเปญ ‘พูดหยุดโกง’ ที่ย้อนแย้งจนประชาชนต้องขอร้องว่า ‘หยุดพูดก่อน’

เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปไม่น้อยสำหรับแคมเปญ #พูดหยุดโกง ที่เหล่าคนดังได้ออกมาพูดเกี่ยวกับการโกง หรือคอร์รัปชันในหลากหลายรูปแบบที่ไม่ควรมีอีกต่อไป ซึ่งงานนี้มีคนบันเทิง ดารา-นักแสดง, ศิลปิน, ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ของเมืองไทยตอบรับเข้าร่วมแคมเปญมากมายกว่า 30 ชีวิต โดยได้แสดงออกผ่านการโพสต์ภาพถ่ายเป็นรูปภาพมือที่ปิดปาก โทนภาพสีแดง พร้อมข้อความ ‘พูดหยุดโกง’ ที่เขียนขึ้นตามร่างกาย เพื่อสื่อให้คนรับรู้ถึงการไม่ทนโดนปิดปาก และกล้าที่จะพูดในเรื่องของการคอร์รัปชัน ซึ่งในส่วนของแคปชันก็ได้มีการติดแฮชแท็ก #พูดหยุดโกง #พูดไม่ทน #ไม่ทนกับการโกงทุกรูปแบบ รวมถึงข้อความต่อต้านการโกงในแง่มุมต่างๆ เช่น อย่าโกงเงินทอนเวลาซื้อของ อย่าแซงคิว อย่าโกงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน หรือนมโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพ เสาไฟฟ้าที่มีมากเกินไป เป็นต้น

หลังจากที่แคมเปญนี้ปล่อยออกไปสู่สาธารณชน ก็สร้างความสับสนให้ประชาชนหลายคนคิดว่านี่เป็นการรวมกลุ่มของดาราเพื่อการ Call Out ให้กับประเทศไทย แต่ในที่สุดเมื่อสืบไปสืบมากลับพบว่าสิ่งที่ถูกโพสต์ออกไปนั้นอยู่ภายใต้แคมเปญหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะหนึ่งในดาราที่ร่วมแคมเปญได้แจ้งชื่อเจ้าของโครงการไว้ในแคปชันด้วย ซึ่งพอหลายคนรู้ว่าแคมเปญนี้มาจาก ป.ป.ช. ประชาชนต่างเกิดความไม่ชอบใจ เพราะก่อนหน้านี้ในวันที่ประชาชนหรือดาราบางส่วนกล้าออกมาพูดแสดงความคิดเห็นของตนต่อรัฐบาล กลับต้องโดนจับกุมคุมขัง หรือโดนเลิกจ้างงาน หรือถูกขู่ปิดปากด้วยกฎหมาย อีกทั้งประเด็นการโกงในแคมเปญที่พูดถึงนั้นกลับเบาหวิวยิ่งกว่าฟองน้ำ จนประชาชนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ป.ป.ช. ควรเอาเวลาตรงนี้ไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐดีกว่าไหม เพราะปัจจุบันหลายข้อกังขาก็ไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดโปร่งใส อีกทั้งคนดังบางส่วนที่ร่วมแคมเปญนี้ก็ไม่เคยแสดงออกทางการเมือง ทำให้ประชาชนบางส่วนรู้สึกไม่เชื่อและไม่อยากฟังแคมเปญนี้ จนล่าสุดคนดังที่เคยออกมาโพสต์รูปของแคมเปญ #พูดหยุดโกง ต่างก็ทยอยลบรูปออกจากอินสตาแกรมส่วนตัวไปแล้ว

ต้องยอมรับจริงๆ ว่ายุคนี้เป็นยุคของการที่ประชาชนหลายคนกล้าพูดเกี่ยวกับความคิดของตัวเอง และการรณรงค์ผ่านแคมเปญแบบนี้อาจจะไม่เห็นผลเท่าไรนักอีกต่อไปแล้ว เพราะการแชร์ข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันผ่านโซเชียลมีเดียมีอิทธิพล และเข้าถึงอย่างรวดเร็วมาก แต่โซเชียลมีเดียก็เหมือนดาบสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และก่อนรับสารทุกประเภทก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

สุดท้ายแม้ในวันนี้หลายคนจะเริ่มท้อ จนไม่อยากมีชีวิตเพื่อต่อสู้กับสารพัดอุปสรรคที่พบเจอ แต่ทีมงาน BTimes ก็อยากให้กำลังใจ และขอให้ทุกคนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยดีนะคะ สู้ๆ ค่ะทุกคน เราจะต้องรอดและผ่านความโหดร้ายนี้ไปได้แน่นอนค่ะ