หรือจีนจะเมินไทย “วีซ่าฟรียาดี แต่ไม่แรงพอ” ทั้งปีส่อหลุดเป้า ไปไม่ถึง 4.4 ล้านคน ปีหน้าหวังสูงฟื้นโตแรงเท่าตัว 8.2 ล้านคน ดันรายได้ปังๆ แตะ 451,800 ล้านบาท

1345
0
Share:

หรือจีนจะเมินไทย “ วีซ่าฟรี ยาดี แต่ไม่แรงพอ” ทั้งปีส่อหลุดเป้า ไปไม่ถึง 4.4 ล้านคน ปีหน้าหวังสูงฟื้นโตแรงเท่าตัว 8.2 ล้านคน ดันรายได้ปังๆ แตะ 451,800 ล้านบาท - ท่องเที่ยว

รัฐบาลได้เริ่มคิ๊กออฟ ‘นโยบายวีซ่าฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน มาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตามแผนควิกวินของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่ย้ำแนวทางการทำงานที่ต้องเร็ว เพื่อกระตุ้นและฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยการท่องเที่ยวที่ถือเป็นตัวเอกที่จะสามารถเข้ามากู้สถานการณ์อย่างเร็วที่สุดในตอนนี้ได้ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รัฐบาลฝากความหวังไว้เป็นน้ำบ่อแรก ก็หนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวชาวจีน บ้านพี่เมืองน้องของไทย ซึ่งตั้งเป้าปี 2566 จะมีชาวจีนเข้ามาเที่ยวอยู่ที่ 4.04–4.4 ล้านคน

แต่ทว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และล่าสุดอยู่ที่ 3.01 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 12.62% โดยพี่จีนเป็นอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากที่สุดปีนี้ รองจากมาเลเซีย ที่เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 3.6 ล้านคน

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ออกมายอมรับว่าสถานการณ์ตลาดจีนในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศคงไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ทำให้คนจีนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย รวมถึงคนจีนหันไปเที่ยวในประเทศมากขึ้น เที่ยวบินที่ยังมีน้อยจากจำนวนที่ลดลงในช่วงโควิด อีกทั้งความกังวลในด้านความปลอดภัยในประเทศไทย โดยเฉพาะเหตุกราดยิง ห้างสยามพารากอน ที่แม้จะมีผลในระยะสั้น หรือแม้แต่สารพัดข่าวด้านลบที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนชะลอเดินทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยจะต้องช่วยเร่งสร้างความเข้าใจและให้ความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวกลับคืนมา

โดย ททท. คาดว่า ปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยตลอดทั้งปี รวมอยู่ที่ 3.4–3.5 ล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศ 190,400–196,000 ล้านบาท พลาดจากเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 4.04–4.4 ล้านคน

นายฉัททันต์ บอกว่าในเดือน พ.ย.นี้ นักท่องเที่ยวจีนกำลังฟื้นตัวสิ้นปีนี้จะชัดเจนขึ้น จากนโยบายวีซ่าฟรีเป็นตัวกระตุ้นนักท่องเที่ยวเพิ่มได้จริง แต่แบบขั้นบันได ถ้าไม่มีวีซ่าฟรี เชื่อว่าจะน้อยกว่านี้

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้มีการโพสต์ผ่านแอปพลิเคชัน “เอ็กซ์” (X) ประกาศเรียกความเชื่อมั่นว่าจะมีการกวาดล้างข่าวปลอม ที่สร้างความเสียหายให้การท่องเที่ยว

โดยระบุว่า “ผมเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาเร่งรัดติดตามการตอบโต้ข่าว Fake News ที่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

โดยจากการรายงานของผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่าน่าจะมีกระบวนการที่สร้างข่าว Fake News ดังกล่าวทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งผมมั่นใจและขอยืนยันว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย และพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาครับ”

ก่อนหน้านี้ข่าวของกลุ่มจีนสีเทา ตำรวจคุ้มกันนักท่องเที่ยววีไอพี ภาพยนตร์จีนที่มีเรื่องราวด้านลบเกี่ยวกับประเทศไทย หรือแม้แต่ข่าวขอทานจีน ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในไทยทั้งนั้น

แต่ในจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง กลับกลายเป็นว่าไทยได้นักท่องเที่ยวคุณภาพมาแทน เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเป็นกลุ่ม FIT หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวด้วยตนเอง หรือเฉพาะครอบครัว ไม่ใช่กลุ่มกรุ๊ปทัวร์ ยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่ดีต่อทริป ทั้งอาหารการกิน ที่เที่ยว ที่พัก ในกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 86% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริป อยู่ที่ประมาณ 56,000–58,000 บาท ต่อคนต่อทริป และใช้เวลาอยู่ในประเทศไทย เฉลี่ย 7 วัน

“โครงสร้างตลาดเปลี่ยนจากชะโงกทัวร์ไม่มีแล้ว นักท่องเที่ยวจีนหวังที่จะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม ถ้าเป็นทัวร์กลุ่มเล็ก จะซื้อทัวร์แบบ No Shopping มากขึ้น สายการบินพรีเมี่ยมก็ขายได้มากขึ้น FIT ที่มีเพิ่มขึ้นถึง 86% ในปีนี้ นับเป็นเทรนด์ทั่วโลก เรียกว่า Solo Trend ในการท่องเที่ยว ” นายฉัททันต์ กล่าว

ด้านอาลีเพย์ แพลตฟอร์มธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ยอดนิยมของจีน ยืนยันว่านักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับรายได้ปานกลางถึงสูง หรือสมาชิกกลุ่ม โกลด์ ไดมอนด์ แพลตินัม มีมากกว่า80% ที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปฯ และเป็นกลุ่มที่อายุน้อยลง 20-40 ปี ที่จะเน้นเรื่องคุณภาพ เช่น ร้านอาหาร มิชลินไกด์ รูฟท็อปบาร์ การท่องเที่ยวแบบ Unseen เป็นต้น

ขณะที่ปี 2567 ททท. ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 8.2 ล้านคน และตั้งเป้ารายได้ 451,800 ล้านบาท โดยมีแผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน เน้น 4 NEWS คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนจากเมืองรองของจีนให้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองรองของไทย เพิ่มพันธมิตรด้านเที่ยวบินเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีสายการบินเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น และเพิ่มช่องทางการเดินทางรูปแบบใหม่ให้หลากหลายขึ้น ยังรวมไปถึงความร่วมมือกับ Influencer ที่มีอิทธิพลสำหรับชาวจีน ในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของไทย ที่จะมีผลต่อการตัดสินใจมาไทยของนักท่องเที่ยวด้วย

ส่วนความร่วมมือของภาคเอกชนที่จะช่วยกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว ในส่วนของตัวแทนสายการบินเอกชน มีแผนที่จะเร่งเพิ่มไฟล์บิน 74 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ยาวไปจนถึงมีนาคม เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่จะเดินทางมาไทย

แม้บนโยบายวีซ่าฟรีที่หวังว่าจะเป็นแม่ทัพ เร่งเครื่องเศรษฐกิจไทยแทนการส่งออกที่ซบเซานั้น ดูเหมือนจะผิดคาดเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจีนก็คงจะวืด แต่ก็ยังหวังว่าในช่วงเทศกาลเคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะฟื้นกระเด้งขึ้นได้ไม่มากก็น้อย…

BTimes