อาเซียนใกล้จะได้ตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้ากิ๊กกะแฟคทอรีที่แรกและที่เดียวซะด้วย เสียดายที่ไม่ใช่เมืองไทย ทำไมอินโดนีเซียถึงอยากได้

411
0
Share:

อาเซียนใกล้จะได้ตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้ากิ๊กกะแฟคทอรีที่แรกและที่เดียวซะด้วย เสียดายที่ไม่ใช่เมืองไทย ทำไม อินโดนีเซีย ถึงอยากได้ - เทสลา

อาเซียนใกล้จะได้ตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้ากิ๊กกะแฟคทอรีที่แรกและที่เดียวซะด้วย เสียดายที่ไม่ใช่เมืองไทย ทำไมอินโดนีเซียถึงอยากได้ แถมใกล้ปิดดีลกับเทสลา ความน่าทึ่งของโรงงานรถไฟฟ้ากิ๊กกะแฟคทอรีเป็นอย่างนี้เอง

เข้าสัปดาห์ที่ 2 ของปีนี้ อินโดนีเซียก็ได้ข่าวดีขึ้นมาทันที เมื่อวันที่ 11 มกราคมนี้เอง เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น (Tesla Inc.) ผู้ผลิตรถไฟฟ้าแบรนด์หรูชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกากำลังใกล้สรุปข้อตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลอินโดนีเซียที่จะมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถไฟฟ้าเทสลา จะบอกว่าโรงงานเทสลามีชื่อเรียกเฉพาะตัวด้วยว่า กิ๊กกะแฟคทอรี (Gigafactory) และนี่ก็จะกลายเป็นโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีแห่งแรกในชาติอาเซียนและในประเทศอินโดนีเซีย โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตสูงถึงปีละ 1 ล้านคัน พร้อมสร้างเครือข่ายหรือโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แตกต่างกัน เพื่อสนับสนุนการผลิตรถไฟฟ้าในโรงงานหลักนี้อีกด้วย

มาดูกันว่าโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในปัจจุบันตั้งอยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีนแผ่นดินใหญ่ และเยอรมนี ทุกวันนี้มีโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีรวมทั้งสิ้น 6 แห่งทั่วโลก มีตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ถึง 4 แห่ง ได้แก่ ฟรีมอนต์ เป็นโรงงานแห่งแรกของเทสลาที่ก่อตั้งในปี 2553 ต่อมาได้เปิดโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีที่ เนวาดา (ปี 2559) นิวยอร์ก (ปี 2560) และ เท็กซัส (ปี 2565) ส่วนอีก 2 แห่ง คือที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน (ปี 2562) และเบอร์ลิน-บรันเดนเบิร์ก ประเทศเยอรมนี (ปี 2565)

แล้วกิ๊กกะแฟคทอรีที่ไหนที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก คำตอบคือนครเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นโรงงานเทสลาแห่งแรกที่เปิดนอกประเทศสหรัฐฯ ซึ่งจีนเป็นตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นโอกาสสำคัญที่เทสลาจะได้รับปัจจัยสนับสนุนในประเทศจีน เช่น การลดต้นทุนจากภาษีศุลกากรและการขนส่งทางทะเล

โรงงานกิ๊กกะแฟคทอรี เซี่ยงไฮ้ มีมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 64,000 ล้านบาท) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 860,000 ตารางเมตร เป็นโครงการที่ทางเทสลาได้ผลักดันแผนการจนได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลท้องถิ่น เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2561 โดยตั้งเป้าใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 มีกำลังการผลิตต่อปีที่ 750,000 คัน และได้มีพิธีเปิดไซต์ก่อสร้างเมื่อช่วงต้นปี 2562 ซึ่งในครั้งนั้น อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลามอเตอร์ส (Tesla Motors) ได้ร่วมพิธีเปิดพร้อมกับนอิง หย่ง นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2564 กิ๊กกะแฟคทอรี นครเซี่ยงไฮ้ ผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 484,100 คัน

ต่อมาในเดือนมีนาคม 2565 เทสลาได้เปิดตัวโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรี แห่งที่ 2 นอกสหรัฐฯ ที่เบอร์ลิน-บรันเดนเบิร์ก ประเทศเยอรมนี และเป็นโรงงานขนาดใหญ่แห่งแรกที่เทสลาเปิดในทวีปยุโรป และคงเป็นที่เดียวในยุโรปแน่ๆ โรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีที่เบอร์ลินใช้ระยะเวลาในการสร้างโรงงานประมาณ 2 ปีครึ่ง โดยในพิธีเปิดโรงงานนั้น ทางเทสลาได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model Y รุ่นใหม่ที่สามารถขับได้ไกลมากถึง 531 กิโลเมตร พร้อมราคาขายอยู่ที่ €63,990 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,300,000 บาท

สำหรับโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีที่ เบอร์ลิน-บรันเดนเบิร์ก นี้จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากถึง 500,000 คันต่อปี

ต่อมาในดือนพฤษภาคม 2565 เทสลาประกาศเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งเป้าผลิตให้ได้ต่อปีถึง 450,000 คัน ในรุ่น Model 3 และ Model Y ที่สุดโรงงานแห่งนี้ก่อสร้างสำเร็จ และเปิดผลิตกันแล้วทำให้เทสลามีกำลังการผลิตจากจีนต่อปีสูงถึง 1.2 ล้านคัน

และในเดือนมิถุนายนปีผ่านไป ถัดจากการเปิดโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีแห่งที่ 2 ในนครเซี่ยงไฮ้ เพียงเดือนเดียว มีข่าวว่า โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้โน้มน้าวให้ อีลอน มัสก์ เข้ามามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถไฟฟ้าที่อินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลอินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จในข้อตกลงโครงการมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 170,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลอินโดนีเซียจะขายและส่งออกแร่นิกเกิลให้กับเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น

หากข้อตกลงดังกล่าวได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น และรัฐบาลอินโดนีเซีย จะส่งผลให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ 3 ที่มีโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรี อยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นโรงงานเทสลาระดับกิ๊กกะแฟคทอรีแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่มีกำลังผลิตสูงถึงปีละ 1 ล้านคัน และทำให้เทสลามีกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้านอกสหรัฐฯ ต่อปีสูงสุดถึง 2.7 ล้านคัน

เมื่อโรงงานกิ๊กกะแฟคทอรีของเทสลาในประเทศอินโดนีเซียเปิดสายการผลิตเมื่อไร คนไทยที่ยังไม่ได้ตัดสินใจจองซื้อรถไฟฟ้าเทสลาในนาทีนี้ แต่วันนึงในอีกไม่นาน อยากจะเป็นเจ้าของเทสลา ก็อาจจะมีตัวเลือกมากขึ้นระหว่างเทสลา Made in China หรือ Made in Indonesia

BTimes