จะมีธุรกิจอะไรที่ทำกำไรแบบจุกๆ ได้ถึงนาทีละ 3.5 ล้านบาท นั่นก็แปลว่าชั่วโมงนึงมีกำไรไหลทะลักกว่า 208 ล้านบาท

390
0
Share:

จะมีธุรกิจอะไรที่ทำ กำไร แบบจุกๆ ได้ถึงนาทีละ 3.5 ล้านบาท นั่นก็แปลว่าชั่วโมงนึงมีกำไรไหลทะลักกว่า 208 ล้านบาท - เอ็กซอน

เมื่อคิดกลับไปเป็น 365 วัน หรือพูดง่ายๆ คือ 1 ปีมีกำไรพุ่งขึ้นมหาศาลประมาณกว่า 1.85 ล้านล้านบาท นี่คือกำไรปีที่ผ่านไปมากเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทผลิตน้ำมันแบรนด์ดังระดับโลกอย่างเอ็กซอน โมบิล ในสหรัฐอเมริกา

ถ้าสำหรับนักเล่นหุ้น ก็คงเสียดายว่าทำไมปีที่แล้วถึงไม่ได้ซื้อหุ้นบริษัทเอ็กซอน (Exxon) โมบิล คอร์ปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตน้ำมันชื่อดังระดับโลก และเจ้าของปั้มน้ำมันเอสโซ่ในหลายประเทศ คำตอบคือใครจะไปรู้ว่ากำไรสุทธิจะทลักมากมายจนเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทนี้

เอ็กซอน ได้เปิดเผยผลประกอบการปี 2022 ที่ผ่านไป ทำเอาหลายคนดมยาดม เพราะมีกำไรสุทธิสูงถึง 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.85 ล้านล้านบาท กลายเป็นทำสถิติผลกำไรสุทธิมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ จะว่าไปก็เฉลี่ยทำกำไรสุทธิชั่วโมงละ 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือชั่วโมงละ 208 ล้านบาทในปี 2022 ที่ผ่านไป

ปีที่แล้ว กระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจตลอดปี 2022 ของเอ็กซอนอยู่ที่ 76,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.53 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึง 28,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 947,100 ล้านบาทจากในปี 2021 ที่มีกระแสเงินสดที่ 48,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาท ยังไม่พอ เมื่อเอ็กซอนมีงบดุลเงินสดสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 990,000 ล้านบาท เลยทำให้จ่ายเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นที่ลงทุนกับเอ็กซ์ซ่อนมีมูลค่ารวม 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 990,000 ล้านบาท แน่นอนว่าย่อมทำสถิติมากกว่าเงินสดที่บริษัทผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดที่ต้องให้กับผู้ถือหุ้นของทุกบริษัทรวมกัน

ผลกำไรสุทธิของเอ็กซอนเคยทำได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทในปี 2008 โดยมีกำไรสุทธิมากถึง 45,200 บ้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาท สาเหตุจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่บาร์เรลละ 142 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะพบว่าราคาน้ำมันดิบแพงเป็นประวัติศาสตร์ดังกล่าวมีราคาสูงกว่า 30% เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบสูงสุดในปี 2022 ที่กว่าบาร์เรลละ 130 ดอลลาร์สหรัฐ

ในปีที่ผ่านไปกลายเป็นปีทองสุดๆ ของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำมันทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่สามารถทำกำไรรวมกันในทั้งอุตสาหกรรมสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.6 ล้านล้านบาท

ทำไมถึงเกิดยุคน้ำมันทองในปีที่แล้ว ก็เพราะว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปีผ่านไปมีราคาแพงถึงกว่า 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงเกือบทำลายสถิติประวัติศาสตร์ ยังจำได้มั้ย นั่นทำให้คนไทยได้เติมน้ำมันเบนซินเกินกว่าลิตรละ 50 บาท หรือ 2 ลิตรกว่า 100 ทั้งหมดก็เป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นจากการกลับมาเปิดประเทศทั่วโลกตั้งแต่กลางปีผ่านไปทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงอีกต่างหาก

มาดูอีกบริษัทน้ำมันในประเทศที่มีฉายาว่าเมืองผู้ดี ก็สหราชอาณาจักรนั่นไงครับ

รอยัล ดัชท์ เชลล์ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตน้ำมันชื่อดังระดับโลกจากสหราชอาณาจักร และก็เป็นเจ้าของปั้มน้ำมันเชลล์แบรนด์ระดับพรีเมี่ยมในทั่วโลก ก็ไม่ยอมน้อยหน้าที่ประกาศผลประกอบการปี 2022 ที่ผ่านไป มีผลกำไรสุทธิสูงถึง 39,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.32 ล้านล้านบาท ทำสถิติผลกำไรสุทธิมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือในรอบกว่า 110 ปีที่ตั้งบริษัทเป็นต้นมา จะว่าไปก็เฉลี่ยทำกำไรสุทธิชั่วโมงละ 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือชั่วโมงละ 149 ล้านบาท ดูจะมีกำไรต่อชั่วโมงน้อยกว่าเอ็กซอน แต่นี่ก็เป็นกำไรที่มากเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทเชลล์กันเลย

ผลกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในปีผ่านไปของเชลล์ ยังทำสถิติพุ่งทะยานมากกว่า 2 เท่าของผลกำไรสุทธิตลอดทั้งปี 2021 ที่ทำได้ 19,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 636,570 ล้านบาท และยังเป็นผลกำไรสุทธิที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 38,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.26 ล้านล้านบาทอีกด้วย

ในช่วงปี 2008 หรือประมาณ 14 ปีผ่านมา ผลกำไรสุทธิของเชลล์ที่เคยทำได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทในปี 2008 มีกำไรสุทธิมากถึง 28,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 937,200 ล้านบาท นั่นก็แทบจะทำให้หลายคนในเชลล์มีช็อค มีงง มีตาค้าง เพราะไม่เคยได้กำไรสุดประวัติศาสตร์แบบนี้มาก่อน

ยังมีอีกหนึ่งบริษัทน้ำมันชื่อดังระดับโลกที่เป็นเจ้าของปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ในประเทศไทย นั่นก็คือเชฟรอนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ในเมืองลุงแซม

นี่ก็ใช่ย่อยด้วยผลกำไรสุทธิปีผ่านไปทะลุถึง 36,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.20 ล้านล้านบาท ตัวเลขกำไรสุทธินี้มีช็อคตรงที่สูงกว่าที่ทำได้ในปี 2021 ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 330,000 ล้านบาท แน่นอนครับจดบันทึกเป็นกำไรมากเป็นประวัติการณ์ของเชฟรอนด้วย แถมยังส่งให้เป็นผลประกอบการรายได้ทะยานก้าวกระโดดกว่า 2 เท่าเทียบจากปี 2021

ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อกำไรพุ่งมากจนต้องจดบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของทั้งบริษัทน้ำมันแต่ละแห่ง และทั้งวงการอุตสาหกรรมน้ำมัน เลยทำให้คำว่า ภาษีลาภลอย ถูกนำมาคิดบนกำไรของบริษัทน้ำมันทุกแห่ง เอ็กซอนบอกว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีผ่านไป รายได้เอ็กซอนได้รับผลกระทบจากกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ใช้มาตรการภาษีลาภลอยกับผลกำไรสุทธิของเอ็กซอน มีกระทบถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 43,000 ล้านบาท เรื่องนี้เอ็กซอนจะไปยอมได้ยังไง เลยกำลังดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายกับกลุ่มอียู กรณีการใช้อัตราภาษีลาภลอยนั้นเกินกว่าอำนาจทางกฎหมายของกลุ่มอียูที่มีอยู่

รู้มั้ยครับ ถ้าตัดค่าปรับและค่าเสียหายออกไปทั้งหมดจากการถูกเก็บภาษีดังกล่าว กำไรสุทธิของเอ็กซอนในปี 2022 ไม่ใช่แค่ชั่วโมงละกว่า 208 ล้านบาท แต่จะอยู่ที่ 59,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.95 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทตั้งแต่ก่อตั้งมาด้วย

เหมือนกันกับเชลล์ ในไตรมาสสุดท้ายของปีผ่านไป รายได้ของเชลล์ก็ได้รับผลกระทบจากกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ใช้มาตรการภาษีลาภลอยกับผลกำไรสุทธิของเอ็กซอน ซึ่งกระทบถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 66,000 ล้านบาท งานนี้ก็คงไม่ยอมเหมือนเอ็กซอน

ว่ากันว่า ปีทองไม่ใช่มีกันบ่อยๆ ปีทองไม่ได้เห็นกันถี่ๆ ผ่านไปแค่เดือนมกราคมของปีนี้ ยังไม่รู้ว่า 3 บริษัทน้ำมันชื่อดังทั้งเอ็กซอน เชลล์ และเชฟรอน (และยังมีบริษัทน้ำมันอื่นๆ อีก) จะโกยกำไรเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในปีนี้หรือเปล่า จะเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องหรือเปล่า

คนเติมน้ำมันได้แต่สวดมนต์ขออย่าเจอน้ำมันแพงอีกเลย นักเล่นหุ้นได้แต่ภาวนาขอให้เจอกำไรสำลักแบบนี้อีก ราคาหุ้นและเงินปันผลจะได้พรึบๆ ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ขนาดคาดกำไรสูงแล้ว กำไรจริงยังสำลักกระอักจุกจุกเลย

BTimes