มรดกล้ำค่าของบรรพบุรุษ กำลังจะถูกทำลายจากนายทุนหน้าเงิน

889
0
Share:

#saveจะนะ มรดกล้ำค่าของบรรพบุรุษ กำลังจะถูกทำลายจากนายทุนหน้าเงิน
เมื่อบ้านเกิดเมืองนอนกำลังจะถูกคนแปลกหน้ามาฮุบไป โดยใช้วิธีการกล่าวอ้างด้วยถ้อยคำแสนหวาน ยกข้อดีมาเชิญชวนให้หลงเชื่อเพื่อหวังผลประโยชน์ เช่นเดียวกับพี่น้องลูกหลานทะเลอย่างชาวบ้านอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่กำลังตกที่นั่งลำบาก โดยที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าสุดท้ายแล้วบ้านเกิดเมืองนอนที่เป็นดั่งชีวิตและจิตใจจะถูกเอาไปเมื่อไรกัน…

เมื่อที่ดินเกิดกำลังจะสูญหายไป พวกเขาจึงต้องมุ่งหน้าสู่เมืองกรุงเพื่อทวงสิทธิ์คืน

สาเหตุของการประท้วงและที่มาของ #saveจะนะ นั้น มาจากเมื่อปี 2559 รัฐบาล คสช. ได้มีการก่อตั้งโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือต้องการเปลี่ยน 3 พื้นที่ ได้แก่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา, อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส และอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมาในปี 2562 ได้อนุมัติให้มีการขยายโครงการ เพิ่มพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นเมืองที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเขตพัฒนาพิเศษ ตั้งเป้าในการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้ให้กับผู้คนในท้องถิ่น ซึ่งโครงการนี้ต้องใช้พื้นที่ชายฝั่งทะเลตำบลนาทับ ตำบลตลิ่งชัน และตำบลสะกอม ของอำเภอจะนะ จำนวนทั้งสิ้น 16,753 ไร่ ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้

หากมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะขึ้นจริง คงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายไม่น้อยที่ความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์กำลังจะถูกทำลาย เพียงเพื่อสนองต่อความโลภของมนุษย์ที่กำลังเบียดเบียนธรรมชาติ ทั้งยังเป็นการขับไล่ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของพื้นที่ทางอ้อมอีกด้วย

‘เงินคือพระเจ้า’ คงใช้ได้กับแค่คนบางกลุ่มที่เห็นว่าเงินสำคัญกว่าความถูกต้อง แต่สำหรับชาวบ้านที่ทั้งชีวิตอุทิศให้กับบ้านเกิดเมืองนอน ที่ไม่ว่าจะมีเงินมากมายมหาศาลขนาดไหนก็คงซื้อสิ่งที่เรียกว่าความสุขไม่ได้ ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่านิคมอุตสาหกรรมนี้ คงจะเป็นบ่อเงินบ่อทองสำหรับนายทุนที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหลาย แต่หารู้ไม่ว่าสำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อาจได้รับผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีอุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล โดยอาชีพหลักของชาวบ้านอำเภอจะนะคือการทำประมง รวมถึงการนำเอาวัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ในท้องถิ่นมาแปรรูปสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่อีกมากมาย เช่น ปลาเค็ม เสื่อกระจูด เป็นต้น ซึ่งการสร้างนิคมอุตสาหกรรมนั้นอาจส่งผลให้ระบบนิเวศน์โดยรอบเปลี่ยนแปลงไป สัตว์น้ำสัตว์บกที่เคยอาศัยต้องอพยพไปหาแหล่งอาหารใหม่ กระทบถึงชาวบ้านที่เคยประกอบอาชีพทางทะเล ก็อาจจำต้องละทิ้งอาชีพดั้งเดิมที่ถูกถ่ายทอดองค์ความรู้มาจากบรรพบุรุษ เพื่ออพยพเข้าเมืองกรุง หาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องโดยจำยอม มิหนำซ้ำบ้านที่เคยพักพิงก็ต้องถูกรื้อถอน ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และกลายเป็นคนพลัดถิ่นในที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นความน่าเสียดายหากเราต้องสูญเสียทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามของอำเภอจะนะไป ส่งผลให้ลูกหลานชาวทะเลต่างกำลังเรียกร้องขอความเป็นธรรม อดทนตรากตรำเดินทางจากบ้านเกิดมาเมืองหลวงเพียงเพื่อหวังว่าเสียงเล็กๆ ของพวกเขาจะสามารถรักษาบ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักของพวกเขาไว้ได้ แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้กลับถูกเพิกเฉย ไม่ถูกพูดถึงเท่าที่ควร เพียงเพราะเป็นปัญหาของคนต่างจังหวัดที่ปากเสียงดูจะเบากว่าคนเมือง แต่สุดท้ายแล้วเราก็คงไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยการใช้เงินแก้ปัญหา จนทำให้นายทุนหน้าเลือดเคยตัวว่าเพียงตนมีเงินก็สามารถเนรมิตทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม

ไม่เพียงแต่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเท่านั้นที่ถูกเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบ แต่ในหลายภูมิภาคของประเทศไทยก็มีการเรียกร้องมากมาย เพียงแต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก

การสร้างนิคมอุตสาหกรรมไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี เพราะอาจช่วยให้เกิดอาชีพ เกิดการจ้างงานขึ้นในชุมชน คนในพื้นที่จะได้มีงานทำ ไม่ต้องไปทำงานที่เมืองหลวง ทั้งยังเป็นการนำความเจริญเข้าสู่พื้นที่ แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วย ทางออกที่ดีคือควรรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มคนที่เปรียบเสมือนเจ้าของพื้นที่ ถึงต่อให้เป็นเพียงเสียงเล็กๆ ผู้มีอำนาจก็ควรเปิดใจรับฟังความคิดเหล่านั้นของพวกเขาด้วย ดีที่สุดคือควรมีการทำข้อตกลงหรือการพูดคุย เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ได้ประโยชน์เพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

สุดท้าย ทีมงาน BTimes ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากขนาดนี้ อะไรที่ช่วยกันได้ก็อยากให้ช่วยกัน อยากให้เห็นใจเพื่อนมนุษย์มากกว่าเงินทอง เพราะทุกคนคือมนุษย์ที่มีความเท่าเทียม

BTimes