นอร์ทโวลท์ เอบี (Northvolt AB) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังในธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าใช้สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี จากประเทศสวีเดน และเป็นบริษัทแม่ในประเทศสวีเดนประกาศล้มละลายในประเทศสวีเดน ส่งผลให้ความฝันที่วงการอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า และค่ายผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในทวีปยุโรปที่จะได้เห็นแบตเตอรี่ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสม สามารถแข่งขันกันได้ และลดการพึงพาใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้ากับแบรนด์ผู้ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากเอเชียต้องปิดฉากลง
นอร์ทโวลท์ เอบี (Northvolt AB) เปิดเผยว่าบริษัทไม่สามารถตกลงในเงื่อนใขสำคัญทางการเงินได้ เพื่อที่จะประกอบกิจการในรูปแบบธุรกิจในปัจจุบันต่อไปได้ ทั้งนี้ พนักงานของบริษัทจำนวนมากกว่า 5,000 คน จะได้รับการติดต่อชี้แจงจากฝ่ายบริหารต่อไป ด้านผลประกอบการและสถานะทางการเงินของบริษัทแม่ นอร์ทโวลท์ เอบี (Northvolt AB) พบว่า สิ้นสุดเดือนมกราคมผ่านไป มีภาระหนี้สะสมที่พุ่งสูงถึงกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 272,000 ล้านบาท
โดยในช่วงเริ่มก่อตั้งบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2016 นั้น ได้รับเงินลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 340,000 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นและนักลงทุน เช่น โฟล์คสวาเก้น เอจี ซึ่งเป็นค่ายผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของเยอรมนีและในยุโรป ถือหุ้นมากถึง 21% รวมถึงสถาบันการเงินชื่อดังเช่นธนาคารโกลด์แมน แซคส์ จากสหรัฐอเมริกา ถือหุ้นสูงถึง 19% ซึ่งทั้งสองสถาบันกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทดังกล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2024 ผ่านมา นอร์ทโวลท์ เอบี (Northvolt AB) ประกาศภาวะล้มละลายในสหรัฐอเมริกา โดยการยื่นตามกฎหมายล้มละลายมาตรา 11 และร้องขอต่อศาลในฮุสตั้น เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนผ่านมา บริษัทฯ ดังกล่าว เปิดเผยว่าอาจจะต้องล้มละลายท่ามกลางความพยายามในการเจรจาหาทางออกหลายครั้ง ด้านพนักงานมีจำนวน 6,600 คนที่อยู่ใน 7 ประเทศ
นอร์ทโวลท์ เอบี เปิดเผยว่ามีกระแสเงินสดเหลือพียง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,065 ล้านบาท ที่จะใช้ดำเนินกิจการในสัปดาห์นี้เท่านั้น ท่ามกลางมีภาระหนี้สินสะสมสูงถึง 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 206,000 ล้านบาท หลังจากได้ประกาศล้มละลาย และขอพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา นอร์ทโวลท์ เอบี ได้รับเงินช่วยเหลือ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,550 ล้านบาทเพื่อใช้ประคองกิจการในช่วงเข้าสู่ภาวะล้มละลาย และดำเนินการแก้ไขสถานภาพบริษัทให้กลับออกมาเป็นปกติ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2025 สำนักข่าวธุรกิจชื่อดังในสวีเดนชื่อว่า Dagens Industri รายงานว่าการเจรจาระหว่างนอร์ทโวลท์ เอบี เจ้าหนี้จำนวนมาก ผู้ถือหุ้น และลูกค้าทางธุรกิจ เพื่อหาทางออกในเรื่องวิกฤตสภาพคล่องนั้น ปรากฏว่าการเจรจาดังกล่าวหยุดลง และไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กันยายนผ่านมานั้น นอร์ทโวลท์ เอบี ประกาศการปลดพนักงานครั้งใหญ่มีสัดส่วน 20% ที่ต้องตกงานจากพนักงานทั้งหมดในปัจจุบันส่งผลให้มีพนักงานในภาพรวม 1,600 คนจะต้องถูกปลดออก นอกจากนี้บริษัทดังกล่าวได้ประกาศยกเลิกแผนการลงทุนเพื่อที่จะขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นโรงงานหลักตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดนด้วย
สาเหตุจากบริษัทนอร์ทโวลท์ เอบี ได้มีการเจรจาต่อรองโครงสร้างทางการเงินกับสถาบันการเงินและนักลงทุนย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาบริษัทได้รับเงินกู้เป็นจำนวน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 170,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในครั้งนั้นบริษัทมีทั้งสินทรัพย์และหนี้สินในภาพรวมทั้งหมดมากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 442,000 ล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวทั้งหมดมีแผนที่จะลงทุนสร้างเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าสำหรับรถทีวีครอบคลุมในยุโรป
อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 พบว่าทำธุรกิจและตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต้องเผชิญกับภาวะความต้องการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถอีวีในประเทศจีน และที่สำคัญผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวให้ความสำคัญกับความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทที่จะต้องมีความมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ นายปีเตอร์ คาร์ลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ กล่าวว่า บริษัทจะต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่าได้มีแผนปฏิบัติการที่ถูกต้อง และถูกช่วงเวลา ในการที่จะตอบสนองต่อปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดยานยนต์รวมไปถึงผลกระทบด้านบรรยากาศในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังชะลอตัวอย่างชัดเจน โดยจำนวนพนักงานที่ต้องตกงานทั้งหมด 1,600 คน จะประกอบไปด้วยการพนักงานออกถึง 3 โรงงานด้วยกันได้แก่ โรงงานที่มีชื่อว่าสเกลเลฟที จะมีพนักงานถูกปลดออก 1,000 คน โรงงานวาสทีราส จะมีพนักงานถูกปลดออก 400 คน และโรงงานในสต็อกโฮล์ม จะมีพนักงานถูกปลดออก 200 คน