อัลชาย่า กรุ๊ป (Alshaya) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นผู้ได้รับสิทธิเจ้าของเครือข่ายร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในตลาดทั้งหมดในภูมิภาคตะวันออกกลาง เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานร้านกาแฟสตาร์บัคส์จำนวนมากกว่า 2,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานเกือบทั้งหมด 50,000 ในปัจจุบัน
สาเหตุจากผลกระทบของการประท้วงต่อต้านแบรนด์สินค้าร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สงครามโหดร้ายในฉนวนกาซา ฝ่ายบริหารของอัลชาย่า กรุ๊ป เปิดเผยว่า เงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจที่มีความท้าทายอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนผ่านมา บริษัทฯ ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก และยังเป็นเรื่องน่าเศร้าที่จำเป็นต้องลดจำนวนเพื่อนพนักงาน
ธุรกิจเครือข่ายร้านกาแฟสตาร์บัคส์เริ่มต้นในตะวันออกกลางเมื่อปี 1999 หรือ 25 ปีผ่านมา ปัจจุบันมีจำนวนสาขามากถึง 2,000 สาขากระจายใน 13 ประเทศของตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชียกลาง
ด้านสตาร์บัคส์เปิดเผยว่า สตาร์บัคส์จะยังคงทุ่มเทในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับอัลชาย่า กรุ๊ป ที่จะผลักดันการเติบโตในระยะยาวในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดร้านกาแฟสำคัญของสตาร์บัคส์ ในช่วงเดือนตุลาคมปีผ่านมา สตาร์บัคส์ อินคอร์ปอเรชั่น แถลงการณ์ชี้แจงว่า ทั้งบริษัทและธุรกิจของสตาร์บัคส์ไม่ใช่องค์กรการเมือง และปฏิเสธข้อกล่าวหา และข่าวลือทุกอย่างที่เกิดขึ้นว่าสตาร์บัคส์มีส่วนสนับสนุนรัฐบาลประเทศอิสราเอล และกองทัพอิสราเอส
สำหรับ อัลชาย่า กรุ๊ป (Alshaya) ก่อตั้งขึ้นในปี 1890 หรือเมื่อ 44 ปีผ่านมา เป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจการซื้อสิทธิแฟรนไชส์มาดำเนินการขยายกิจการในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีแบรนด์แฟรนไชส์ระดับโลกอยู่ในมือ เช่น เชค แช็ค (Shake Shack) เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคมผ่านมา อัลชาย่า กรุ๊ป (Alshaya) เปิดเผยว่า ได้ลดการขยายธุรกิจร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในประเทศอียิปต์ สาเหตุจากสภาพเศรษฐกิจอียิปต์ที่ชะลอตัวลงมาก การลดค่าเงินของประเทศอียิปต์บ่อยครั้ง และภาวะเงินเฟ้อระดับสูงในอียิปต์