กกพ.ประกาศหลักเกณฑ์การคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้ประชาชน

1161
0
Share:

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ประกาศหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก พ.ศ. 2563” จะมีผลบังคับใช้วันที่ 20 มี.ค.2563 โดยจะเริ่มเปิดให้มีการตรวจสอบสิทธิ์ และทยอยคืนเงินประกันฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.เป็นต้นไปในช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยคาดว่าผู้ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็ว
.
ส่งผลให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือ หรือ กฟส. จะต้องคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าว จำนวนกว่า 23 ล้านรายทั่วประเทศวงเงินกว่า 33,000 ล้านบาท
.
โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องแจ้งความประสงค์ขอรับคืน และให้ผู้บริการไฟฟ้าคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563 ซึ่งต้องคืนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่วางหลักประกันตามประเภทของขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหม่อีกต่อไป ยกเว้นกรณีเปลี่ยนประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าจากประเภทที่ 1 และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 2 ไปเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น
.
โดยขั้นตอนต่างๆ จะเน้นการดำเนินการผ่านระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นผู้วางเงินประกัน ซึ่งชื่อตรงกับบิลค่าไฟฟ้า สามารถตรวจสอบสิทธิ์และรับเงินผ่านระบบที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจัดเตรียมไว้
.
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการ กฟภ.กล่าวว่าการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กของ กฟภ.ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่าน https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563 เป็นต้นไป กรอกชื่อ นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชนให้ครบถ้วน ส่งหลักฐานผ่านระบบและรอรับเงินตามช่องทางพร้อมเพย์ (PromptPay) บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับเงินสด ที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ โดยกฟภ.จะส่งข้อความยืนยันผลการลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์และแจ้งผลการคืนเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบ โดยเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
.
นอกจากนี้ กฟภ.ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าเพื่อเป็นการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทจะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า 3% ในบิลเดือนเม.ย.-มิ.ย.2563 ในส่งนของผู้ใช้ไฟประเภทธุรกิจเฉพาะ เช่นโรงแรม รีสอร์ทที่ได้รับผลกระทบ สามารถผ่อนชำระค่าไฟฟ้าเดือนเม.ย. และพ.ค.2563 ได้ไม่เกิน 6 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อตอบข้อซักถามและข้อสงสัยให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นจำนวน 90 คู่สาย ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1129
.
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟน. กล่าวว่า กฟน.จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อขอรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในช่องทางที่หลากหลายประกอบด้วย ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยแอปพลิเคชัน MEA Smart Life, เว็บไซต์ www.mea.or.th, Facebook การไฟฟ้านครหลวง MEA, Twitter @mea_news, Line @meathailand และสแกนคิวอาร์โค้ด(QR Code) ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563 เป็นต้นไป โดยผู้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์จะได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืนตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
.
ช่องทางที่ 2 ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 02-256-3333 จำนวน 50 คู่สาย ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563-29 พ.ค.2563 เวลา 08.00 –15.30 น. ในวันทำการ ช่องทางที่ 3 ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต
.
นายจาตุรงค์ กล่าวว่าการลงทะเบียนทั้ง 3 ช่องทางดังกล่าว ผู้ขอคืนหลักประกันสามารถเลือกช่องทางการคืนเงินได้ 3 ช่องทางโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ช่องทางที่ 1 บัญชีพร้อมเพย์ เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของผู้วางหลักประกัน ช่องทางที่ 2 บัญชีธนาคารพาณิชย์ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกันที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกสิกรไทย ช่องทางที่ 3 เคาน์เตอร์เซอร์วิส (จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท)