กกร.พอใจมาตรการพักหนี้ของธปท. เชื่อประชุมสภาวิสามัญจะช่วยลดความร้อนแรงทางการเมืองได้

790
0
Share:

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ภาครัฐ โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ และ บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
.
โดยหนึ่งในมาตรการที่ออกมา คือ มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน โดยลูกหนี้ต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นหนี้ที่ยังชำระปกติ หรือ ค้างไม่เกิน 90 วัน ณ 31 ธ.ค. 2562 , วงเงินของทุกบริษัทในกลุ่มที่มีกับสถาบันการเงินเดียวกัน ไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถปรับตัวจากผลกระทบ และ ก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนี้ไปได้ โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ต.ค. 2563
.
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย มาตรการพักชำระหนี้นี้ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และ สมัครใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1.05 ล้านบัญชี เป็นยอดหนี้ประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมและปรับตัว เป็นการให้เวลากับธุรกิจของลูกหนี้ ธนาคารเจ้าหนี้ได้มีเวลาในการศึกษาผลกระทบของลูกหนี้แต่ละรายและกำหนดแผนการชำระหนี้ให้เหมาะสอดคล้องกับแผนธุรกิจ กระแสเงินสดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเศรษฐกิจที่จะสามารถข้ามผ่านผลกระทบดังกล่าวไปได้
.
โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงินคงสถานการณ์จัดชั้นลูกหนี้ถึงสิ้นปี 2563 สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการเจรจาปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ เพื่อช่วยไม่ให้ลูกหนี้กลายเป็น NPL ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้สถาบันการเงินเร่งดำเนินการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงปรับมาตรการจากการขยายการพักชำระหนี้ ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ต.ค.63 นี้ เป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เชิงรุกและตรงจุดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกหนี้แต่ละราย
.
โดยมาตรการที่ออกมาถือว่าเพียงพอต่อการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระได้ โดยเราจะมีการประเมินดูทุกไตรมาส
.
ในส่วนกรณีการชุมนุมทางการเมืองนั้น ทางกกร. อยากเห็นประเทศสงบ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งล่าสุดที่คณะรัฐมนตรีเปิดประชุมสภาวิสามัญเพื่อหาทางออกการเมืองในสัปดาห์หน้า ถือว่าเป็นการเปิดทางเจรจา โดยเป็นเรื่องที่ดี และ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายลดทิฐิได้ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้