กบข. ชูวิสัยทัศน์มุ่งขับเคลื่อนกองทุนให้มั่นคง เล็งลงทุนสร้างที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ รับสังคมสูงวัย

84
0
Share:

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราขการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้กำหนดแผนงานวางรากฐานการบริหารกองทุน ในการขับเคลื่อน กบข. ให้เป็นกองทุนที่มีความมั่นคง สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว มากกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี บวก 2% ต่อปี และเพิ่มระดับความไว้วางใจของสมาชิกที่มีต่อ กบข. เพื่อให้สมาชิกมุ่งสู่การมี “Freedom for Living เกษียณมีสุข

โดย กบข. อยู่ระหว่างการศึกษาการสร้างที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ (Retirement Complex) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นให้กับสมาชิก โดยจะหาผู้ร่วมลงทุนที่สนใจพัฒนาอาคารอยู่อาศัยสำหรับวัยเกษียณที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น  และยังมีการศึกษาทางเลือกผลตอบแทนด้านอื่นๆ อาทิ การรับเงินปันผลระหว่างทาง ทางเลือกในการออมเพิ่ม รับสิทธ์ในการรับบริการ เช่น การรักษาพยาบาลส่วนเพิ่ม โดยจะมีการศึกษาความเป็นไปได้และอาจต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ 

อีกทั้ง จะมีการทบทวนความเพียงพอของเงิน ณ วันเกษียณ โดยเพิ่มตัวแปรหนี้สิน การมีอายุยืนยาวของคนไทย และระดับความเพียงพอของสมาชิกแต่ละกลุ่มอาชีพเข้ามาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ระดับความเพียงพอมีค่าเป็นปัจจุบันมากที่สุด และนำผลศึกษามาปรับปรุงแผนการจัดสรรการลงทุนของ กบข. ซึ่งในปี 2567 ตั้งเป้าผลตอบแทนจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 1.46% 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตาม 3 ปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและบริหารความเสี่ยงได้ทันการณ์ ประกอบด้วย 1.ผลการเลือกตั้งและนโยบายในหลายประเทศ โดยเฉพาะประธานาธิบดีสหรัฐฯ และแนวนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯจีน 2.ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างรัสเซียยูเครน อิสราเอลอิหร่าน และสงคราม และ 3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง 

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่ต้องจับตา ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่คงอยู่ในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา จะลดทอนความสามารถในการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง เงินเฟ้อปรับตัวลดลงแบบชะลอตัวและยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวของธนาคารกลาง ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังต้องติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นในการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และการกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง