กฟผ. เปิดค่าพีคไฟฟ้ารอบใหม่ทะลุ 32,154.4 เมกะวัตต์ เมื่อคืนนี้ ปรับขึ้นสูงสุด

265
0
Share:
กฟผ. เปิด ค่าพีคไฟฟ้า รอบใหม่ทะลุ 32,154.4 เมกะวัตต์ เมื่อคืนนี้ ปรับขึ้นสูงสุด

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รายงายสถิติการใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าพบว่าวานนี้ (6 เม.ย.) เกิดความต้องใช้สูงสุด (พีค) ในปีนี้ที่32,154.4เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 20:52 น. ด้วยอุณหภูมิ 31.2 เซลเซียสซึ่งการใช้ไฟฟ้าที่พีคเกิดเกิดจากอากาศร้อนจัดทำให้คนไทยเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) และพัดลมคลายร้อนมากขึ้นโดยพีคดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่ทำลายสถิติพีคในระบบของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 เวลา 22:36 น. ที่เกิดขึ้น 32,254.5 เมกะวัตต์ที่ 32.0 องศาเซลเซียส

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดพีคในระบบ 3 การไฟฟ้าปีนี้ จะนิวไฮไม่ต่ำกว่า 3.4 หมื่นเมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามหากรวมกับไฟฟ้าของเอกชนที่ผลิตเพื่อใช้เอง (ไอพีเอส) อีก 5 พันเมกะวัตต์ แล้ว ความต้องการไฟฟ้า ของประเทศอาจสูงถึง 3.9 หมื่นเมกะวัตต์ ในปีนี้

ทั้งนี้ โครงสร้างค่าไฟฟ้าของไทยเป็นอัตราก้าวหน้ายิ่งใช้ไฟฟ้ามากคลายร้อนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยก็จะเพิ่มขึ้น โดยหากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือนจะมีอัตราการคิดค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้าดังนี้ 150 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-150) หน่วยละ 3.2484 บาท 250 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 151-400) หน่วยละ 4.2218 บาท หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป ราคาหน่วยละ 4.4217 บาท (อย่างไรก็ตาม ครม.ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน300หน่วยต่อเดือนตั้งแต่ ม.ค. – เม.ย 66ส่วนเดือนถัดไป รอครม. จะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่)

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวงกล่าวว่า MEA แนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย คือการหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่ จะเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงาน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า