กมธ.การเงินชี้โควิดทำวิกฤติประเทศไทยรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี

767
0
Share:

กมธ.การเงินชี้โควิดทำวิกฤติประเทศไทยรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี ด้านนโยบายการเงินรัฐไม่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหา
.
คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร สัมมนา เรื่อง“การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก : ภาคเหนือ เมื่อวานนี้ ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ เป็นประธานจัดงาน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากทุกภาคส่วนกว่า 200 คน จากการสัมมนาดังกล่าว สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
.
1) วิกฤตของประเทศครั้งนี้รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี เพราะไม่ใช่เป็นเพียงวิกฤติเศรษฐกิจเท่านั้น ยังเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุข จึงทำให้ยากต่อการประเมินได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เปรียบเสมือน “มหาสมุทรที่เวิ้งว้าง ยังมองไม่เห็นฝั่ง”
.
2) วัฒนธรรมไทย แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตก จึงเป็นจุดแข็งให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ในระดับต่ำ จนอาจกล่าวได้ว่า ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีที่สุดในโลก
.
3) แม้ว่าหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เช่นนี้ ควรเร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนโดยการผ่อนคลายมาตรการปล่อยสินเชื่อของธุรกิจ Micro Finance และ Nano Finance โดยให้นำโฉนดที่ดิน ที่ดิน สปก. มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้เงินได้
.
4) นโยบายการคลัง ภายใต้มาตรการต่างๆ ของรัฐในปัจจุบัน ประกอบกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563-2564 ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด-19
.
5) พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ไม่ว่าจะเป็น Soft Loan หรืองบฟื้นฟู 4 แสนล้าน ก็ยังไม่ตอบโจทย์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างตรงเป้าเท่าที่ควร
.
6) รัฐต้องมีมาตรการให้พักชำระหนี้และดอกเบี้ยแก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยต้องจัดทำข้อตกลงร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่างรัฐ ผู้ประกอบธุรกิจ ธนาคาร ในการแบ่งสัดส่วนภาระหนี้อย่างชัดเจน
.
7) ผู้ประกอบธุรกิจไม่ควรมีการปลดพนักงานในช่วงวิกฤตินี้
.
8) รัฐต้องเข้าไปมีบทบาทดูแลธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น จัดตั้งกองทุนเข้ามาอุดหนุน เป็นต้น
.
9) ธนาคารออมสิน และธนาคาร ธ.ก.ส. ควรมีการจ้างงานนักศึกษา และ/หรือบัณฑิตจบใหม่ มาช่วยสำรวจจัดเก็บข้อมูล และขึ้นทะเบียนผู้เดือดร้อนทั่วประเทศ
.
10) ข้อกำหนดภายใต้มาตรการจัดสรรเงินเยียวยาและช่วยเหลือผู้เดือดร้อนกลุ่มอาชีพต่างๆ จากภาครัฐ คือ ให้ผู้ได้รับการเยียวยาต้องแลกเปลี่ยนด้วยการทำประโยชน์เพื่อสังคม เช่น การปลูกป่า เป็นต้น
.
11) “กัญชง” เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ชาวไร่ทดแทนการปลูกยาสูบ
.
การสัมมนาดังกล่าว มีวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วยนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธาน กก.บห. บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) // นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน // นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล ผอ.ฝ่ายสินเชื่อบุคคล ธกส. // ผอ.สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ภาคเหนือ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากวิทยากร ความเห็นและข้อเสนอแนะจากการสัมมนา ภาคเหนือครั้งนี้ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ จะนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป