กรมชลประทานเตือนแล้งรุนแรง ขอชาวนาลุ่มน้ำเจ้าพระยางดทำนาปรัง เหตุน้ำใช้ได้มีน้อยมาก

ดร.ทวีศักดิ์ ธนนะเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ณ วันที่ 4 กันยายนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 42,470 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่างร่วมกัน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักคือเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,153 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างร่วมกัน และจากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า สถานการณ์เอลนีโญจะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ และมีแนวโน้มลากยาวถึงเดือนเมษายน ปี 67

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน จะเหลือน้ำใช้การได้ทั้งประเทศรวมกัน 20,160 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำใช้การได้ 5,803 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก และจะเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ เท่านั้น จึงขอให้ชาวนาในลุ่มน้ำเจ้าพระยางดทำนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันเก็บกักน้ำไว้ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ อาทิ แก้มลิง บ่อหรือแม้แต่ภาชนะสำรองน้ำภายในครัวเรือนไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไป

ขณะที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ ชี้ว่าภัยแล้งที่เกิดบ่อยครั้งกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ โดยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ไม่พิจารณาไทยเป็นฐานการผลิต เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำในปริมาณมาก ส่งผลให้ประเทศสูญเสียโอกาสจากการลงทุนมหาศาล