กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ชี้แจงโควิดระบาดในไทย มีต้นตอจากอินเดีย

649
0
Share:

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีสายพันธุ์โควิดที่มากับกลุ่มลักลอบเข้าเมือง อ.แม่สอด , กลุ่ม 1G1 ท่าขี้เหล็ก , ประเทศเมียนมา, ชายแดนไทย จ.เชียงราย และกลุ่มที่พบในจ.สมุทรสาครว่า เป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์ GH เป็นสายวิวัฒนาการมีต้นตอมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มที่พบระบาดในประเทศไทยระยะแรก
.
แต่ยังไม่พบการกลายพันธุ์ในตำแหน่งยีน N501Y ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ในประเทศอังกฤษขณะนี้ ซึ่งทางทีมแพทย์จะตรวจการเป็นระยะเพื่อให้ทราบว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ชนิดใด

.

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจ เรื่องสายพันธุ์ของโควิด-19 เริ่มต้นจากประเทศจีนเป็นสายพันธุ์ S และสายพันธุ์ L
.
โดยสายพันธุ์ L แพร่กระจายได้ง่ายนอกประเทศจีนสายพันธุ์ L เมื่อระบาดนอกประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป ได้ออกลูกหลาน เป็นสายพันธุ์ G และ V โดยสายพันธุ์ G มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง 614 บนหนามแหลมที่ยื่นออกมา
.
สายพันธุ์ G นี้แพร่กระจายได้ง่ายมาก ออกลูกหลานมาเป็น สายพันธุ์ GH และ GR ซึ่งพบว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ G จะมีปริมาณเชื้อที่ลำคอค่อนข้างมาก จึงแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย ทำให้ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ขณะนี้สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ G มากที่สุด หากสายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และมาตรวจพบ ใน state quarantine ของประเทศไทย จะเป็นสายพันธุ์ G
.
ทางศูนย์ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสำนักงานควบคุมโรคเขตเมือง โดยเฉพาะที่อยู่ใน state quarantine เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลพื้นฐาน หากมีการระบาดเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องหาทางป้องกันการระบาดระลอก 2 อย่างเต็มที่
.
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่า สายพันธุ์ G พบมากกว่าร้อยละ 80 ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ในระยะหลังที่พบผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ G ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เมื่อเกิดการติดเชื้อในเซลล์มนุษย์จะสามารถสร้างไวรัสตัวลูกขึ้นมาแพร่ได้เร็วขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลงอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกพบ 2%