กระทรวงพลังงานเปิดแผนลงทุน 3 ปี วงเงิน 1.1 ล้านล้านบาท

994
0
Share:

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกันนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และมอบนโยบาย “พลังงานสร้างชาติ” ที่กระทรวงพลังงานว่า เป็นการเตรียมแผนงานด้านพลังงาน เพื่อลดค่าครองชีพและสร้างรายได้ให้กับประชาชนหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายซึ่งจะช่วยสร้างผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท
.
ทั้งนี้มีสาระสำคัญที่จะดำเนินการ 3 ด้านในช่วงปี 2563-2565 คือ 1. ลดรายจ่ายแก่ประชาชนช่วงโควิด-19 รวมกว่า 40,500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ดำเนินการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาและดำเนินการต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี ผ่านมาตรการช่วยเหลือสำคัญ เช่น ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและภาคธุรกิจด้วยการบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากการนำเข้า Spot LNG
.
การยกเว้นเก็บอัตราค่าไฟฟ้าขั้นต่ำถึงก.ย.2563 การตรึงราคาก๊าซหุงต้มหรือ แอลพีจี ถึงเดือนก.ย. 2563 และจะพิจารณาขยายไปถึงธ.ค.2563 การช่วยเหลือส่วนต่างราคา NGV สำหรับรถสาธารณะ โดย ปตท. ช่วยเหลือส่วนต่างราคาจนถึงเดือนก.ค. 2563 และการลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 50 สต.ต่อลิตร รวมถึงลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นลง 50 สต.ต่อลิตร
.
2. เร่งรัดการลงทุนด้านพลังงาน ในช่วงปี 2563-2565 กว่า 1.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นปี 2563 มีการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ปี 2564 ลงทุน 4.57 แสนล้านบาท และปี 2565 ลงทุน 4.5 แสนล้าน โดยมีแผนเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ในปี 2563 การเนินการ LNG Hub เริ่มการลงทุนพัฒนา Grid Modernization และศึกษาความเป็นไปได้ของ Grid Connectivity กับประเทศเพื่อนบ้าน การรื้อถอนแท่นปิโตรเลียม และเร่ง LNG receiving Terminal
.
3. กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูหลังโควิด-19 รวมกว่า 30,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้ชุมชน เกิดการจ้างงานกว่า 8,000 คน ซึ่งต่อจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จะกระตุ้นให้เกิดการค้าผ่านตลาดนัดออนไลน์ชุมชนโรงไฟฟ้าและท่องเที่ยวเขื่อนทั่วไทย และ ปตท. จะจัด Living Community Market Place และเที่ยวทั่วทิศกระตุ้นเศรษฐกิจกับ Blue card
.
นอกจากนี้ยังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีแผนที่จะขยายสายส่งไฟฟ้าเพื่อผันแม่น้ำยวมสู่อ่างเก็บน้ำภูมิพลเพื่อชลประทาน และยังช่วยลดปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นได้ด้วย รวมไปถึงการพิจารณาหาแนวทางการนำไฟฟ้าส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
.
สำหรับนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ในปี 2563 จะมีการลงทุนและสร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 10,000 คน เมื่อครบเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์
.
นอกจากนี้ การใช้ระบบ Blockchain เข้ามาช่วยในการซื้อขายปาล์มภาคพลังงานทั้งระบบ จะเกิดการหมุนเวียนรายได้กว่า 14,000 ล้านบาท และการลงทุนเพื่อช่วยประกอบการ Start up โดย ปตท. สนับสนุนทุนไปแล้วกว่า 17 ราย และ กฟผ. จะมี Innovation Holding Company เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาไฟฟ้าในยุค Disruptive technology