กระทิงมา! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกระฉูด 700 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวเหนือ 78 ดอลล์

152
0
Share:
กระทิงมา! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกระฉูด 700 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวเหนือ 78 ดอลล์

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,630 จุด +700 จุด หรือ +2.13% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,895 จุด +86 จุด หรือ +2.28% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,569 จุด +264 จุด หรือ +2.56% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติดัชนีหุ้นรายวันดีที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน 65 ผ่านมา ขณะที่ดัชนีหุ้นนาสแดค ทำสถิติดัชนีหุ้นรายวันดีที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 29 ธันวาคม 65

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +1.5%, +1.5% และ +1% ตามลำดับ

สาเหตุจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 223,000 คน ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 220,000 คน นอกจากนี้ อัตราค่าจ้างแรงงานเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 0.4% สอดคล้องกับค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยในแง่ 12 เดือน เพิ่มขึ้น 4.6% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 5% นับเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่สิงหาคม 2021 ด้านดัชนีการจัดซื้อภาคบริการเดือนธันวาคมหดตัวลง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 3.56%

ทั้ง 3 ปัจจัย ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอย่างชัดเจนมากขึ้น อาจทำให้ลดแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น โดยเฉพาะการประชุมครั้งแรกในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ขณะที่ ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ที่ระหว่าง 4.25%-4.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 73.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 78.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.2% ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

เมื่อวันพุธในสัปดาห์นี้ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทำสถิติดำดิ่งรุนแรงถึง -9.4% ใน 2 วันทำการติดต่อกันของการเริ่มซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 31 ปี หรือนับตั้งแต่มกราคมปี 1991 เป็นต้นมา

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง มีราคาลดลงกว่า -8% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งหนักในสัปดาห์แรกของปีในรอบ 6 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนยังไม่เห็นความชัดเจนมากนักที่แนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะชะลอตัวลง หลังจากชั่งน้ำหนักตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับภาวะการจ้างงานเดือนธันวาคมในสหรัฐอเมริกาที่ปรากฎว่า ถึงแม้อัตราค่าจ้างรายชั่วโมงจะเพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่คาดไว้ สะท้อนแนวโน้มการชะลอตัวขึ้นค่าจ้าง แต่ในทางกลับกัน อัตราว่างงานในเดือนธันวาคมกลับลดต่ำลงมาแตะที่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับภาวะว่างงานที่กลับไปอยู่ในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 สะท้อนตลาดการจ้างงานตึงตัวครั้งใหม่ และเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงมีความแข็งแกร่งในการขยายตัวได้ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในระดับสูงสุดรอบ 14 ปี

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงในคืนผ่านมา ซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบประเภทเบาให้กับตลาดเอเชียซึ่งทำสถิติราคาดังกล่าวต่ำสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นมา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,869.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +36.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +1.6% ส่งผลเป็นราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่ปี 13 มิถุนายน 2565

ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น +2.1% ทำสถิติทองคำรายสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 1 เดือน หรือตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2565

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่ง 1% ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี 10 ปี แบะ 30 ปี ร่วงลงต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากตัวเลขอัตราค่าจ้างแรงงานสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเหนือเป้าหมายเล็กน้อย รวมถึงดัชนีการจัดซื้อภาคบริการเดือนเดียวกันลดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ทั้งหมด ทำให้นักลงทุนกลับมามั่นใจว่าแรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจลดลงมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงอย่างชัดเจนโดยเฉพาะอัตราค่าจ้างลดต่ำลงทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอาจชะลอตัวต่อเนื่อง