กลายพันธุ์พุ่ง! ยูเคติดทะลุ 2 ล้าน โรคโควิด-19 กลายพันธ์ในหลายประเทศที่ยุโรป
นายแมทท์ แฮนค๊อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถจะควบคุมได้แล้ว และมองว่าเมืองและพื้นที่หลายแห่งในสหราชอาณาจักรที่ถูกจัดอยู่ในมาตรการปิดล็อคระดับ 4 จะตกอยู่ในสภาพนี้ไปจนกระทั่งการให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชนทั่วไปจะมีขึ้น
.
สำหรับการกลายพันธ์ของโรคระบาดโควิด-19 ที่พบในสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ปรากฎหลักฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า มีการพบในออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และยุโรปบางประเทศ เช่น อิตาลี เนเธอแลนด์ และเดนมาร์ค จุดหลักสำคัญ คือเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สามารถแพร่ระบาดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึง 70% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์รุ่นแรกๆ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีจำนวนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
.
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านไปนั้น มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ไปประมาณ 350,000 คน จากเป้าหมายที่ต้องการฉีดวีคซีนให้ครบ 500,000 คนภายในสุดสัปดาห์นี้ การประกาศปรับระดับมาตรการปิดล็อคเมืองระดับ 4 ในช่วงเกือบ 1 วันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 16 ล้านคนในเมืองและพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้
.
สถานการณ์การปิดล็อคเมืองและพื้นที่หลายส่วนในกรุงลอนดอน สก๊อตแลนด์ และเวลส์ รวมถึงการประกาศหลากหลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ด้วยการยกระดับปิดล็อคมาเป็นระดับที่ 4 และการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา 2019 ที่พบทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ได้กลายเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้หลายประเทศในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ได้แก่ เนเธอแลนด์ อิตาลี เยอรมนี ออสเตรีย สาธารณรัฐเชค ตุรกี โมร๊อคโค แคนาดา อิหร่าน และคูเวต ประกาศห้ามสายการบินจากสหราชอาณาจักรเข้าสู่ประเทศตามที่ระบุไว้ข้างต้น โดยให้มีผลทันที จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
.
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่สหราชอาณาจักรในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 21 ธันวาคม 2563 พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้น 35,928 ราย ส่งผลจำนวนติดสะสมทะลุ 2,040,147 ราย ทำสถิติทะลุ 2 ล้านคนเป็นครั้งแรก อยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของยุโรป ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้น 326 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 67,401 เป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ในยุโรป
