กลุ่มประเทศเงินยูโรหั่นเป้าจีดีพี 2 ปีซ้อน กระชากเงินเฟ้อทั้งปีพุ่งเกิน 8%

คณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซี เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีสำหรับประเทศใช้เงินยูโรที่มีทั้งหมด 19 ประเทศในปี 2565 ลดลงเล็กน้อยจากเดิมที่ระดับ 2.7% มาเหลือ 2.6% อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีลดลงอย่างมากถึง 0.9% โดยลดลงจากเดิมที่ระดับ 2.3% ลงมาเหลือเพียง 1.4% นับเป็นการปรับลดจีดีพีถึง 2 ปีติดต่อกัน

สาเหตุจากค่าเงินยูโรเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในรอบ 23 ปี หรือนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้เงินยูโรเป็นต้นมา เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความผันผวนอย่างรุนแรงทั้งมนระยะสั้นและระยะยาว

ในขณะที่ตัวเลขจีดีพีในกลุ่มสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศนั้น ไม่ได้มีการปรับลดลงสำหรับในปีนี้แต่อย่างใด แต่ปรับลดจีดีพีในปี 2566 จากเดิมที่ระดับ 2.3% มาเหลือเพียง 1.5%

สำหรับอัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศเงินยูโรนั้น คณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออีซีปรับตัวเลขเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อทั้งปีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.6% จากเดิมที่ 6.1% และในปี 2566 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.0% จากเดิมที่ระดับ 2.7% สอดคล้องกับในกลุ่มสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ พบว่าในปี 2565 มีการปรับเงินเฟ้อขึ้นมาอยู่ที่ 8.3% จากเดิมที่ระดับ 6.8% และในปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.2% มาเป็น 4.6%

สาเหตุจากรัสเซียทำสงครามกับยูเครน กระทบต่อปริมาณพลังงานในทวีปยุโรปและสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ เช่น ข้าวสาลี เป็นต้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ด้านเกษตรอย่างยืดเยื้อ