กลุ่มผู้สูงอายุยื่นหนังสือถึงกระทรวงการคลัง คัดค้านตัดเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

238
0
Share:
กลุ่มผู้สูงอายุยื่นหนังสือถึงกระทรวงการคลัง คัดค้านตัด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (We Fair) และเครือข่ายสลัมสี่ภาค เดินทางมาเรียกร้องยื่นหนังสือคัดค้านการตัดสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สำหรับผู้มีฐานะร่ำรวย หลังจากประกาศ กระทรวงมหาดไทย แก้ไขระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2566 บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 66

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกแถลงการณ์ประชาชนว่า เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่รัฐบาลทหารยังคงรักษาการณ์ออกหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเพิ่มคุณสมบัติการเป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพเข้ามาเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการรับสวัสดิการเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุทั้งที่กว่าทศวรรษ สวัสดิการรายเดือนของผู้สูงวัยถูกปรับให้ก้าวหน้าขึ้น เปลี่ยนจากการสงเคราะห์คนยากไร้มาให้สิทธิอย่างถ้วนทั่วทุกคน ขอเพียงให้มีอายุ 60 ปี และไม่ได้รับสวัสดิการ หรือบำนาญอื่นใดจากรัฐในลักษณะเดียวกัน จึงยื่นข้อเรียกร้อง ดังนี้

1. กระทรวงมหาดไทย ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2566 แล้วกลับไปใช้ระเบียบเดิม ซึ่งคงสิทธิถ้วนหน้า โดยไม่ต้องพิสูจน์ความยากจน และตัดสิทธิการรับสวัสดิการซ้ำช้อนไว้แล้ว

2. คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ต้องออกมาปกป้องสิทธิของผู้สูงอายุทุกคน ไม่ให้ถูกลิดรอนต่ำลงไปกว่าที่เคยเป็น ด้วยการไม่สนองตอบต่อหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2566

3. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับการเปลี่ยนเบี้ยยังชีพให้เป็นบำนาญถ้วนหน้า ด้วยการออกเป็นกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ใช้หลักนโยบายการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามมติคณะรัฐมนตรี

4. กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ของตัวเองในการศึกษาตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เข้ารัฐ เพื่อเพิ่มรายได้มาเติมเต็มการจัดสวัสดิการให้กับประชาชนแบบถ้วนหน้า เช่น การศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการจัดเก็บภาษีความมั่งคั่ง ภาษีลาภลอย ภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น เป็นต้น

และ 5. รัฐบาลใหม่ ต้องผลักตันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเรื่องรัฐสวัสดิการเป็นสิทธิแบบถ้วนหน้าบรรจุในกฎหมายให้ชัดเจน