กลุ่มเหล็กเดือดร้อนหนัก

นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สงครามการค้าโลกที่ยังลุกลามขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกีดกันการค้าสินค้าเหล็กในประเทศต่างๆ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงมาก โดยล่าสุดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังรายงานว่าเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะมีอัตราเติบโตชะลอตัวเพียง 2.8%
.
ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทย ปี 2562 มีประมาณ 19.1 ล้านตัน ในขณะที่ผู้ผลิตเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งเจอปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศของตน และไม่สามารถส่งออกสินค้าเหล็กไปยังประเทศอื่นๆ ที่ใช้มาตรการกีดกันต่างๆ อย่างเข้มข้น ต่างพากันเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดสินค้าเหล็กในไทย โดยใน 9 เดือนแรกของปี 2562 สินค้าเหล็กนำเข้ามีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากถึง 67%
.
โดยคาดว่าความต้องการใช้เหล็กในปี 2562 จะเติบโต 3.9% แต่ในปี 2563 อัตราการเติบโตจะเหลือเพียง 1.7% สวนทางกับการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน อินเดีย อิหร่าน จน Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD ได้แสดงความกังวลว่าภาวะ Over Supply ของสินค้าเหล็กจะกลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตสูงอีกแล้ว เพราะกำลังการผลิตเหล็กทั่วโลกมีมากเกินความต้องการใช้เหล็กถึง 440 ล้านตันต่อปี
.
ที่สำคัญการใช้เพียงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ไม่สามารถแก้ปัญหาความเสียหายทางเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง ต่ออุตสาหกรรมเหล็กของไทยได้ เนื่องจากกำลังการผลิตเหล็กของโลกที่มีมากเกินความต้องการ และการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ จนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยมีการใช้กำลังการผลิตถดถอยเหลือเพียง 33% เท่านั้น
.
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาที่สำคัญอีกแนวทาง คือ การสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่จะมีการใช้งบประมาณหลายล้านล้านบาทในระยะเวลาข้างหน้านี้