กสิกรไทยปรับเป้าส่งออกไทยปีนี้ ฟื้นตัวกลับมาติดลบแค่ 7 %

621
0
Share:

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ส่งออกไทยในเดือนก.ย. 2563 อยู่ที่ 19,621 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 3.9 จากปีก่อน ท่ามกลางอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ 9 เดือนแรกการส่งออกไทยหดตัวร้อยละ 7.3 จากปีก่อน
.
การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวได้ดีเป็นหลัก โดยการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนก.ย. 2563 พลิกกลับมาขยายตัวอย่างมากที่ร้อยละ 11.6 หลังจากหดตัว 4 เดือนติดต่อกัน ขณะที่การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 8.3
.
โดยปัจจัยผลักดันส่วนหนึ่งมาจากการทำงานที่บ้าน ที่ส่งผลให้อุปสงค์ของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกอบกับมีการเร่งส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ
.
การส่งออกสินค้าเกษตรก็กลับมาขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและผักผลไม้ ขณะที่สินค้าประเภทอาหาร เช่น ทูน่ากระป๋อง สุกรแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องดื่ม และอาหารสัตว์เลี้ยงก็ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
.
สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น ถุงมือยางก็ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
สินค้าที่การส่งออกหดตัวในเดือนก.ย. 2563 ส่วนมากยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิมๆ เช่น รถยนต์ เครื่องจักรกล น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา ข้าว และน้ำตาลทราย ขณะที่การส่งออกทองคำในเดือนก.ย. 2563 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ 9.2 เนื่องจากราคาทองคำที่ปรับลดลง หลังจากขยายตัวอย่างมากในเดือนก่อนหน้า
.
หากพิจารณารายตลาดส่งออกของไทย พบว่า การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ดีเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่การส่งออกไปยังจีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย รวมถึงบางประเทศในอาเซียน เช่น เวียดนาม และมาเลเซีย ก็พลิกกลับมาขยายตัว ขณะที่การส่งออกไปยังญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปก็หดตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอุปสงค์โลกมีการฟื้นตัว โดยส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการที่สะสมจากช่วงก่อนหน้า (pent-up demand)
.
ทั้งนี้ เนื่องจากการส่งออกไทยใน 9 เดือนแรกหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยทบทวนประมาณการส่งออกไทยปี 2563 โดยคาดว่า จะหดตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.0 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 12.0 โดยสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดีในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/2563
.
อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยในช่วงไตรมาส 4/2563 ยังเผชิญความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยการแพร่ระบาดซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปที่การแพร่ระบาดระลอกสองนั้นรุนแรงกว่าในรอบแรกอาจส่งผลให้ความต้องการสินค้าไทยนั้นลดลง
.
ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และประเด็นเบร็กซิทที่ยังตกลงกันไม่ได้ น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและกดดันการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า
.
ขณะที่ประเด็นความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยังคงคุกรุ่นและจะเป็นปัจจัยกดดันการค้าโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงผันผวน ท่ามกลางความเสี่ยงที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งการส่งออกทองคำจะเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลให้การส่งออกไทยผันผวนได้ในระยะข้างหน้า