กสิกรไทยเปลี่ยนมุมมองบาทร่วงแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์ บาทผันผวนอันดับ 4

450
0
Share:
ค่าเงินบาท

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าค่าเงินบาทในปัจจุบันยังไม่ถึงจุดต่ำสุด โดยคาดว่าจุดอ่อนสุดมีโอกาสหลุด 36 บาทต่อดอลลาร์ และจะทยอยกลับมาแข็งค่าในระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ จากสัญญาณการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อค่าเงินบาทในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเห็นว่าตัวเลขการท่องเที่ยว 4 เดือนแรกค่อนข้างดี มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 7-8 แสนคน

นอกจากนี้ ยังประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจำนวน 2 ครั้ง จากเดิมมองว่าจะขึ้นเพียง 1 ครั้งภายในไตรมาสที่ 4/2565 แต่จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เร่งขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.9% เพื่อต้องการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นปีดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 3.5%

สาเหตุจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากหากปล่อยไว้จะยิ่งทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า และยิ่งเร่งเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่า ธปท. ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงิน (Intervene) เฉลี่ย 3,000-5,000 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยพยุงไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าหรือผันผวนเกินไป เพราะหากดูเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากผลอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5% และเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 80-90% จะมาจากสาเหตุนโยบายการเงินของเฟด

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเงินบาทผันผวนเป็นอันดับที่ 4 โดยประเทศที่มีความผันผวนสุด คือ วอน-เกาหลี รองลงมา รูเปียห์-อินโดนีเซีย เปโซ-ฟิลิปปินส์ ซึ่งเราต้องการไม่ให้ค่าเงินผันผวนมากหรือน้อยเกินไป

ทั้งนี้ มองว่าธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นผลบวกมากกว่าผลลบ แต่การปรับขึ้นคาดว่าธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม 1 ครั้ง และรอดูผลลัพธ์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าเกินไป และจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 1 ครั้งภายในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่คิดว่าเหมาะสม สะท้อนธปท.ช่วยอุดหนุนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน