กองสลากฯเผยคนตกงานขายสลากฯเพิ่มขึ้น 1 แสนคน ทำผู้ค้าตัวจริงเดือดร้อน

681
0
Share:

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดประชุมรับฟังความเห็นเรื่องการปรับโครงสร้างการกระจายสลาก รวมถึงการแก้ปัญหาสลากเกินราคา โดยมีตัวแทนผู้ค้าสลากโควตา ผู้พิการ ผู้ค้ารายย่อยที่ไม่ได้รับโควตา และผู้เกี่ยวข้อง เช่นกลุ่มรายย่อย กว่า 400-500 คน มายื่นหนังสือถึงสำนักงานฯ เกี่ยวกับการขอโควตาให้กับผู้ค้าสลากตัวจริง
.

โดยบรรยากาศที่ประชุมมีการเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย เช่น กลุ่มผู้พิการต้องการให้ลดราคาสลากฯจาก 80 บาท เหลือ 40 บาท และเพิ่มโควตาการพิมพ์ลอตเตอรี่จากงวดละ 100 ล้านใบ เป็น 200 ล้านใบ เพื่อสร้างงานเพิ่มอีก 2 แสนคน แต่ทางนักวิชาการและผู้ค้ารายย่อยไม่เห็นด้วย เพราะจะเอื้อให้นายทุนทำหวยรวมชุดง่ายขึ้น และเสนอให้ปรับระบบการพิมพ์เป็นแบบคละเลขทั้ง 100 ล้านใบแทน เพื่อป้องกันการรวมชุด ตลอดจนเสนอให้ขายลอตเตอรี่ผ่านช่องทางออนไลน์แทนผ่านพ่อค้าคนกลาง
.

นอกจากนี้ยังได้เสนอให้รื้อโควตาขึ้นทะเบียนผู้ค้าสลากฯ และเปิดขึ้นทะเบียนใหม่ ทั้ง 100 ล้านฉบับ หลังจากไม่ได้ปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อให้ได้คนขายตัวจริงเข้าสู่ระบบ พร้อมกับมีการออกมาแฉกลางที่ประชุมฯ ขอให้ทบทวนตัดรายชื่อข้าราชการออกจากโควตาค้าหวย เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรมาแย่งงานชาวบ้าน และที่สำคัญยังพบว่ามีข้าราชการบางส่วนนำสลากฯออกไปประมูลขายต่อหน้าไปรษณีย์จนทำให้เกิดการเก็งกำไรและลอตเตอรี่ราคาแพง.
.
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้รับรายงานปัญหาสลากแพง และไม่พอขายมา 2-3 งวดแล้ว หลังพบผู้ค้าลอตเตอรี่หน้าใหม่ ที่ตกงาน หรือขาดรายได้จากการแพร่ระบาดของโควิด เข้ามาทำอาชีพขายสลากฯเพิ่มขึ้น จากปกติงวดละ 2 แสนคน เพิ่มเป็น 3 แสนคน และมีผู้ได้รับโควตานำลอตเตอรี่ไปขายต่อใบละ 90 บาท จนทำให้ผู้ค้าตัวจริงต้องรับซื้อไปขายถึงใบละ 100 บาท จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนซื้อสลากฯแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด
.
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะนำความเห็นทั้งหมดจากการประชุมครั้งนี้ เสนอให้คณะกรรมการสลากฯ พิจารณาออกแนวทางแก้ปัญหาลอตเตอรี่แพงในวันที่ 23 ก.ย.2563 โดยจะพิจารณาทั้งข้อเสนอ การพิมพ์สลากฯเพิ่มขึ้นมากกว่างวดละ 100 ล้านใบ การรื้อโควตาผู้ค้าเดิม การเปิดขึ้นทะเบียนผู้ค้าใหม่ รวมถึงการตัดสิทธิข้าราชการที่ได้โควตาหวย แต่คงไม่มีการปรับเพิ่มกำไรให้คนขาย เพราะโครงสร้างเรื่องรายได้จากการขายสลากฯ ที่แบ่งเงินรางวัล 60% การส่งเงินเข้ารัฐ 23% และการแบ่งกำไรให้ผู้ขาย และค่าบริหารจัดการรวม 17% เหมาะสมอยู่แล้ว