‘การคลัง’ แจงหากที่ผ่านมารัฐไม่ออกมาตรการเยียวยาช่วย ไทยจะมีคนจนพุ่งถึง 11 ล้านคน

381
0
Share:

ดร.พิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผอ.สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)กล่าวว่า โควิดทำให้กิจกรรทางเศรษฐกิจต้องชะงักลง โดยตั้งแต่ปี 2563 รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มเติมปี 2564 วงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งเข้ามาช่วยเยียวยาด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจในหลายๆมิติ ทั้งภาคการท่องเที่ยว มาตรการชดเชยต่างๆ การจัดหาวัคซีน

ทั้งโครงการเยียวยาประชาชนต่างๆ ทั้ง คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 40 ล้านคน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วปี 2563 เม็ดเงินเยียวยาที่รัฐให้แก่ประชาชนเฉลี่ยอยู่ที่ 13,400 บาทต่อคนต่อปี “ต้องยอมรับว่าโควิดทำให้คนจนเพิ่มขึ้น จากก่อนโควิดที่มีคนจนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 ล้านคน แต่เมื่อเกิดโควิดเพิ่มเป็น 4.8 ล้านคน แต่ถ้าไม่มาตรเยียวยาต่างๆจากรัฐออกมา จะมีคนจนเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านคน หรือเพิ่มอีก 5-6 ล้านคน

อย่างไรก็ตามปี 2565 รัฐบาลยังมีงบประมาณที่ยังไม่ได้จัดสรรทำให้มีความสามารถในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนอยู่ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์บรรยากาศต่างๆในไทยก็เริ่มดีขึ้น  แต่กำลังเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่สำคัญอย่างสงครามรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งรัฐบาลได้วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เพราะเมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ต้นทุนต่างๆก็เพิ่มขึ้นทุกส่วนซึ่งอาจจะต้องหาจุดกึ่งกลาง หากลไกเข้ามาจัดสรร โดยกระทรวงการคลังก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว