ขนส่งทางบกฯ เปิดตัวเลขผู้ใช้บริการชำระภาษีรถยนต์ปี 65 รวมรถยนต์-รถ จักรยานยนต์

284
0
Share:
ขนส่งทางบก เปิด ตัวเลข ผู้ใช้บริการชำระภาษีรถยนต์ ปี 65 รวมรถยนต์-รถ จักรยานยนต์

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ใช้บริการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (จยย.) ประจำปี 65 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.65 พบว่ามีจำนวน 32,138,580 คัน สามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีทั่วประเทศ ได้ทั้งสิ้น 33,570,808,972.57 บาท

โดยมีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ รวมจำนวน 759,600 คัน แบ่งเป็น ช่องทาง แอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th,เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอพพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet

ในส่วนการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการจำนวน 26,499,407 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 4,615,137 คัน ออกหน่วยเคลื่อนที่ 223,581 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 9,430 คัน ผ่านช่องทางธนาคาร จำนวน 31,425 คัน

ทั้งนี้แนะนำผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน รถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถ จยย. อายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชน ก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

เมื่อมีการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอพพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้ โดยในระหว่างที่รอรับเอกสาร ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมาย การเสียภาษีประจำปีจาก ขบ.

ทั้งนี้ กรมฯยังได้พัฒนาระบบชำระภาษีออนไลน์ เช่น แอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เว็บไซต์ ขบ.https://eservice.dlt.go.th, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอพพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชน เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่งอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีได้ และในปี 66 สถานการณ์โควิด-19 เข้าเข้าสู่สภาวะปกติและได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากทางภาครัฐ จึงคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการชำระภาษี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เป็นจำนวนมาก ขบ. ได้เตรียมความพร้อมและจัดเจ้าหน้าที่ในการให้บริการชำระภาษีได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว