ขสมก.ผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ต้อนรับเปิดเทอม เริ่ม 1 ก.ค.นี้

751
0
Share:

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า เตรียมผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ในระบบขนส่งสาธารณะ ตามนโยบายที่รัฐบาลปลดล็อคมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2563 ซึ่งตรงกับวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งจะมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น
.
ทั้งนี้จะการผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ในระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 70 % โดยอนุญาตให้ผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ เดินทางมาเป็นครอบครัวสามารถนั่งติดกันได้ บนเบาะที่นั่งที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.เพิ่มขึ้นเป็น วันละ ประมาณ 9 แสนคน
.
สำหรับแผนการเดินรถโดยสาร ในช่วงมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 และช่วงเปิดภาคเรียน ดังนี้ 1.จัดรถออกวิ่ง 100 % (3,000 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา โดยมีเที่ยววิ่งเฉลี่ย วันละประมาณ 25,000 เที่ยว ซึ่งก่อนนำรถออกวิ่ง จะใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้ง ขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือ บริเวณประตูทางขึ้น
.
2. กำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนให้มีระยะห่างกัน 1 เมตร ซึ่งรถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ ผู้ใช้บริการ ยืนได้ไม่เกิน 10 คน กรณีผู้ใช้บริการเต็ม พนักงานเก็บค่าโดยสารจะติดป้ายข้อความ “ ผู้ใช้บริการเต็ม โปรดใช้บริการ รถคันถัดไป” บริเวณกระจกหน้ารถโดยสาร พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการรับทราบ เพื่อรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
.
3. กำหนดจุดนั่งเบาะคู่ (เบาะคู่ที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาททั้ง 2 เบาะ) เพิ่มเติม สำหรับให้ผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ ผู้ใช้บริการที่เป็นครอบครัวเดียวกัน สามารถนั่งติดกันได้
.
4. ตรวจเช็คสภาพ และตรวจสอบการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆของรถโดยสาร ให้มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งตรวจเช็คประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
.
5. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อ
.
ใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
.
โดยผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะใช้บริการรถโดยสาร กรณีผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ เดินทางมาเป็นครอบครัว สามารถนั่งบนเบาะที่นั่งคู่ที่กำหนดไว้ (เบาะคู่ ที่ไม่มี เครื่องหมายกากบาททั้ง 2 เบาะ) ส่วนผู้ใช้บริการที่เดินทางมาคนเดียว ขอความกรุณานั่งบนเบาะที่นั่งอื่น ๆที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท