ขายตลอด! มหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ขายหุ้นเทสลาอีก 22 ล้านหุ้นกว่า 120,000 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ สหรัฐอเมริกา หรือเอสอีซี เปิดเผยว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ขายหุ้นส่วนตัวที่ถือครองอยู่ในเทสลาเมื่อวันจันทร์ถึงวันพุธรวม 3 วันทำการติดต่อกันผ่านมาเป็นจำนวน 22 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 126,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าหุ้นเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ที่นายอีลอน มัสค์ ขายออกมาตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมารวมทั้งสิ้นมีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.4 ล้านล้านบาท

การขายหุ้นเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ที่ถือครองในนามส่วนตัวของมหาเศรษฐีนายอีลอน มัสค์ ในช่วง 3 วันผ่านมา นับเป็นการขายหุ้นที่มีขนาดมูลค่ามากเป็นครั้งที่ 2 ของนายอีลอน มัสก์ หลังจากการขายครั้งแรกเกิดขึ้นเพื่อเป็นเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการบริษัททวิตเตอร์ อินคอร์ปอเรชั่น เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 ที่ผ่านมา

ด้านเรฟฟินิทีฟ ดาต้า เปิดเผยว่าสัดส่วนการถือหุ้นของนายอีลอน มัสค์ ในบริษัทเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ปัจจุบันอยู่ที่ 13.4% ลดลงจากเดิมที่ 17% เมื่อปีผ่านมา ในขณะที่ราคาหุ้นของเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ลดต่ำลงมากถึง -30% ตั้งแต่ต้นปีนี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา การจัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกจากดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก ที่จัดทำโดยบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสื่อด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา พบว่า นายอีลอน มัสก์ วัย 51 ปี หลุดตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก โดยมีมูลค่าความมั่งคั่งลดลงมาอยู่ที่ 163,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.73 ล้านล้านบาท จากเดิมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเคยมีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ 171,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.07 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ฟอร์บส สื่อด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยข้อมูลมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ซึ่งจัดโดยฟอร์บส พบว่านายอีลอน มัสก์ มีมูลค่าความมั่งคั่งร่ำรวยลดลงมาอยู่ที่ 183,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.52 ล้านล้านบาท ทำให้นายอีลอน มัสก์ หลุดจากอันดับมหาเศรษฐีที่ 1 ของโลกมาอยู่อันดับที่ 2 ของโลก