ขายไม่ยั้ง! อีก 2 วันตัดสินดอกเบี้ยแบงก์ชาติสหรัฐ เงินลงทุนหดหายพุ่งใน 2 เดือนกว่า

เรฟินิทีฟ ลิพเพอร์ (Refinitiv Lipper) หนึ่งในสถาบันวิจัยตลาดทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า ใน 7 วันแรกของเดือนมิถุนายนถึงวันที่ 7 มิถุนายนผ่านมา กองทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ทำการขายหุ้นรวมสุทธิเป็นเงินมูลค่า 16,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 575,400 ล้านบาท ทำสถิติมูลค่าขายสุทธิรายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับ 2 ปัจจัยลบ ได้แก่ แนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่อาจเพิ่มสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกาชะลอตัว โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา จะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดเกี่ยวกับการตัดสินปรับขึ้น หรือตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน คือวันที่ 13-14 มิถุนายน

กองทุนในสหรัฐอเมริกาที่มีการขายหุ้นสุทธิในสัปดาห์ดังกล่าว พบว่า กองทุนขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มีมูลค่าขายสุทธิ 7,530 และ 1,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 263,550 และ 37,450 ล้านบาทตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กองทุนขนาดเล็กกลับมีแรงซื้อสุทธิ 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 40,250 ล้านบาท

เมื่อพิจารณาจากประเภทของกลุ่มหุ้นที่กองทุนทำการขายสุทธิใน 7 วันแรกของเดือนมิถุนายน พบว่า กองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขายออกสุทธิถึง 1,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 45,850 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านั้นมีเม็ดเงินเข้าซื้อสุทธิถึง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน

ส่วนตลาดเงินในสหรัฐอเมริกาช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีเงินไหลเข้าซื้อสุทธิ 19,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 694,050 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันที่มีเงินไหลเข้าซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเป็นช่องทางลงทุนที่ปลอดภัยเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยลบของเงินเฟ้อสูง และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว