ขึ้นยกแผง ดัชนีหุ้นนาสแดคพุ่งทะยานกว่า 500 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดเหนือกว่า 83 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดพุ่งใกล้ 1,800 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 34,912 จุด +534 จุด หรือ +1.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,438 จุด +74 จุด หรือ +1.71% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 7 เดือน และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,823 จุด +251 จุด หรือ +1.73% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 4 เดือนกว่า
สาเหตุจากผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาออกมาดีกว่าที่คาด และเป็นไปตามคาดหมาย เช่น กลุ่มธนาคารชื่อดังอย่าง แบงค์ออฟอเมริกา มอร์แกน สแตลนลีย์ และซิตี้กรุ๊ป นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์ลดต่ำกว่า 300,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา โดยเหลือเพียง 293,000 คน
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลกลับมาทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 และ 3 ปี ตามลำดับครั้งใหม่ สาเหตุจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ รายงานว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพงต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบไปผลิตก๊าซธรรมชาติแทน ส่งผลมีแนวโน้มใช้น้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นวันละ 500,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัส เนื่องจากมติล่าสุดที่ตรึงกำลังผลิตไว้ที่เดือนละ 400,000 บาร์เรลนั้น ถือว่าเหมะสมและป้องกันราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนในระยะยาว
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,797.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +11.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่า รับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น 10 ปี ร่วงลงทั้งคืนที่ผ่านมา เป็นผลจากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณชัดเจนที่จะเริ่มทยอยยุติมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลในระบบการเงินในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน หรือไม่เกินกลางเดือนธันวาคมนี้
