คนญี่ปุ่นเกือบ 90% สนับสนุนนายกฯ ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ ป้องกันพันธุ์โอไมครอน

หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุน ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังระดับประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พบว่าประชาชนชาวญี่ปุ่นกว่า 89% สนับสนุนการตัดสินใจของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีในการประกาศมาตรการห้ามการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติจากทั่วโลก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

นอกจากนี้ คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายคิชิดะ เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 62% จากเดิมที่ 56% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำสถิติคะแนนนิยมที่สูงที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่เข้ารับตำแหน่งได้ประมาณ 2 เดือน สิ่งสำคัญ คือคะแนนนิยมดังกล่าวสูงถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของนายโยชิฮิเดะ ซูงะ อดีตนายกรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ สาเหตุจากประชาชนชาวญี่ปุ่นไม่พอใจความล่าช้าที่จะรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

นับตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ใช้มาตรการปิดพรมแดนน่านฟ้าเต็มรูปแบบกับทุกประเทศทั่วโลกอย่างอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ สั่งห้ามชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้าประเทศมีผลในวันเดียวกันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 คล้อยหลังเพียงวันเดียวที่ประกาศใช้มาตรการดังกล่าว ญี่ปุ่นตรวจพบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นรายแรกของประเทศ โดยเป็นนักการทูตชาวนามิเบีย ทวีปแอฟริกา ได้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนรายที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่น