คนต้องการเงินหมุนต่อลมหายใจ ส่งตลาดสินเชื่อป้ายทะเบียนรถปี 65 โตที่ 15-20%

460
0
Share:
ตลาดสินเชื่อป้ายทะเบียนรถ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สินเชื่อทะเบียนรถขยายตัวสูงช่วงวิกฤติโควิดปี 2563-2564 โดย ณ สิ้นปี 2564 บัญชีผู้กู้มีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 1 เท่าตัว ยอดคงค้างสินเชื่อขยับขึ้น 45% จาก ณ สิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ 4.20 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อคงค้างรวม 1.81 แสนล้านบาท ขณะที่จำนวนหนี้เสีย (NPL) ในช่วงเดียวกันเพิ่มขึ้นเกือบ 100% เป็น 2.93 พันล้านบาท แต่ด้วยฐานสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้นทำให้อัตราส่วน NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.62%
.
ทั้งนี้ การเติบโตสูงของสินเชื่อทะเบียนรถนี้ เกิดจากธุรกิจฝั่ง Non-Bank เป็นหลัก ส่วนหนึ่งเพราะมีผู้ให้บริการเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะ Non-Bank ที่มีฐานทุนขนาดใหญ่ และการขยายฐานลูกค้าในตลาดล่างที่ครอบคลุมทะเบียนรถจักรยานยนต์ ขณะที่ธุรกิจฝั่งธนาคารค่อนข้างทรงตัวด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ยังเน้นสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ รถกระบะ และบิ๊กไบค์ ในกลุ่มลูกค้าระดับกลางเป็นหลัก
.
แนวโน้มปี 2565 มีโอกาสโตต่อเนื่อง แต่ด้วยฐานที่สูงทำให้คาดว่าจะเติบโตในกรอบ 15-20% เทียบกับที่โต 20.4% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 อันเป็นผลจาก นโยบายเครดิตเชิงรุกของ Non-Bank การเพิ่มช่องทางขอสินเชื่อ การให้วงเงินกู้สูงขึ้นและให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ กอปรกับความต้องการกู้ยืมที่ยังสูง
.
ขณะที่คาดว่าสินเชื่อทะเบียนรถในระบบธนาคารพาณิชย์คงประคองตัว เนื่องจากสถานะความเป็นเจ้าของรถที่ชะลอลงในช่วงวิกฤตโควิด เพราะมีสินเชื่อเช่าซื้อรถจำนวนหนึ่งขอเข้ามาตรการชะลอหนี้ ยืดหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้มีรถปลอดภาระเข้าสู่ระบบลดลง
.
สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถ แม้ว่าจะมีทิศทางเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับค่อนข้างใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากการแข่งขันที่สูง และเป็นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับต้นทุนเงินเฉลี่ย ความเสี่ยง และผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น โดยช่วงอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อทะเบียนรถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 10-24% ต่อปี ตามประเภทรถ สถานะอาชีพและการเงินของผู้กู้ รวมถึงประเภทผู้ให้บริการ
.
ทั้งนี้ การเติบโตของสินเชื่อทะเบียนรถมีทั้งมุมบวก คือช่วยให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ไม่แน่นอนและมีความอ่อนไหวต่อปัญหาปากท้อง แต่ก็ต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปหากเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ความต่อเนื่องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสะดุดตัวลง